โครงการ“โคบาลบูรพา”จังหวัดสระแก้ว ทำเงินสะพัดเข้าชุมชนแล้วกว่า 10 ล้าน จากจำหน่ายผลผลิตลูกโคส่งท้ายปี แถมยังสามารถผลให้ความช่วยเหลือเกษตรกรระยะที่ 2 ได้อีกถึง 195 รายเป็นโคเนื้อ 990 ตัว
วันที่ 26 ธันวาคม 2560 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ มอบหมายให้นายวิวัฒน์ ไชยชะอุ่ม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ พร้อมด้วย นายกิตติ กุบแก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมและพัฒนาโคเนื้อ นายประสิทธิ์ ต้อยติ่ง ปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว นำสื่อมวลชนลงพื้นที่อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว เพื่อถ่ายภาพ ทำข่าวเป็นสื่อกลางในการนำเสนอผลสำเร็จของโครงการโคบาลบูรพา
นับตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน สมาชิกในโครงการสามารถจำหน่ยโคเนื้อเพศผู้มากกว่า 375 ตัว สร้างรายได้แก่เกษตรกรมากกว่า 10 ล้านบาทและยังสามารถขยายผลให้ความช่วยเหลือเกษตรกรระยะที่ 2 ได้ถึง 195 รายเป็นโคเนื้อ 990 ตัว
นายสัตวแพทย์สรวิศ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ดำเนินการโครงการโคบาลบูรพาขึ้นเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งโดยเฉพาะจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่สำคัญของภาคตะวันออก แต่มีพื้นที่อยู่ในเขตชลประทานเพียงร้อยละ 10.4 ของพื้นที่ในการทำการเกษตร ทำให้ค่าเฉลี่ยผลผลิตต่อไร่ค่อนข้างต่ำ และบางพื้นที่อยู่นอกเขตชลประทาน สภาพดินมีความสมบูรณ์ต่ำ ประสบปัญหาภัยแล้งอยู่เสมอ
ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมอาชีพปศุสัตว์ให้เกษตรกรในพื้นที่ ส.ป.ก.ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเลี้ยงสัตว์และพัฒนาให้จังหวัดสระแก้วเป็นเมืองแห่งปศุสัตว์ “โคบาลบูรพา” ที่สำคัญของประเทศ มีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมโคเนื้ออย่างครบวงจรนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2560 โดยเกษตรกรจะได้รับการสนับสนุน โคเนื้อรายละ 5 ตัว แพะเนื้อรายละ 32 ตัว พร้อมค่าใช้จ่ายในการปลูกสร้างแปลงพืชอาหารสัตว์ โรงเรือนและบ่อบาดาล
ทั้งนี้เกษตรกรต้องส่งคืนโคเพศเมียอายุ 12 เดือน 5 ตัวแรก /ลูกแพะเพศเมียอายุ 6 เดือน 32 ตัวแรกให้โครงการ เพื่อนำไปขยายผลช่วยเหลือเกษตรกรรายใหม่นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
ด้านนายวิวัฒน์ ไชชะอุ่ม กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งแล้ว ยังช่วยเหลือ ส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ แก่เกษตรกรและประชาชนผู้สนใจ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด-19 เป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้จากการเลี้ยงโคเนื้ออีกด้วย