สร้างเครือข่ายให้รวย ด้วย “ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์” พิสูจน์แล้วรายได้งาม กำไรตัวละ 40 บาท

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

     “การเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์น่าสนใจมาก  เราสามารถเลี้ยงไว้เพื่อบริโภคเองก็ได้ เพราะเนื้ออร่อยเหมือนไก่บ้านแต่นุ่มกว่า หรือเลี้ยงเพื่อขายก็ได้ เลี้ยงง่าย แข็งแรงโตเร็ว และทนโรค สามารถปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้ง่าย อีกอย่างลงทุนไม่มากด้วย”

      หลังจากที่หนุ่มเมืองสุพรรณฯ “ชัยทร ผิวเกลี้ยง”  เกษตรกรดีเด่นด้านปศุสัตว์ ปี 2560 เจ้าของ  ฟาร์มไก่ตะเภาทองสุพรรณบุรี” ที่ บ้านหนองแหน ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี อยู่กับการเลี้ยง “ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์” ของครอบครัวอยู่ได้ระยะหนึ่ง ในที่สุด เขาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาดูแลกิจการฟาร์มไก่แทนคุณพ่อ และหันมาเลี้ยงแบบอินทรีย์ ปบ่อยกึ่งธรรมชาติ   เน้นผลิตลูกไก่ให้กับเครือข่าย เลี้ยงต่อเพื่อป้อนตลาดบน ทั้งโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหารชั้นนำ เดือนละ 3,000-4,000 ตัว สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นอย่างดี เพราะตลาดต้องการสูง ขายได้ราคาดี เลี้ยงง่าย โตเร็ว แข็งแรง ทนโรค และทนต่อสภาพอากาศ ผู้เลี้ยงสามารถทำกำไรได้ตัว 40 บาท

      ชัยทร เล่าว่า  ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์ เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างไก่พื้นเมืองพันธุ์พันธุ์ไก่ตะเภาทองที่เกือบจะสูญพันธุ์เป็นพ่อพันธุ์กับไก่แม่พันธุ์สามเหลือง (ซาอึ้ง)  เป็นไก่พื้นเมืองของเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนพัฒนาสายพันธุ์โดย อาจารย์สุชาติ สงวนพันธุ์ จากภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร หาวิทยาลัยกษตราสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จึงตั้งชื่อพันธุ์ว่า  “ไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์” 

      มีรูปร่างอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ คือ รูปร่างสมส่วนสวยงาม ทั้งตัวผู้และตัวเมีย มีหงอนแบบจักร ขนสีเหลืองทอง แข้งสีเหลือง ปากเหลือง หนังเหลือง  เลี้ยงง่าย โตเร็ว ทนต่อโรคและสภาพอากาศได้ดี ที่สำคัญเนื้อมีรสชาตที่อร่อยมาก มีความเหนียวแต่นุ่ม ไขมันน้อย กระดูกร่อน เนื่องจากที่ฟาร์มไก่ตะเภาทองสุพรรณบุรี เลี้ยงแบบปล่อย กึ่งธรรมชาติ และให้อาหารอินทรีย์ ทำให้กรดยูริกน้อยด้วย

            เขา ย้อนก่อนที่มาเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์นั้น หลังจากเรียนจบด้านสัตวศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาเขตพระนครศรีอยุธยา หันตรา หรือ ราชมงคลหันตรา อยุธยา ไปทำงานประจำที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ดำเนินธุรกิจด้านการปศุสัตว์ แต่ที่บ้านคุณพ่อ (นรินทร์ ผิวเกลี้ยง) เลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์อยู่แล้ว เพราะคุณพ่อได้นำฟาร์มเลี้ยงไก่ร่วมโครงการกับอาจารย์สุชาติ ตั้งแต่เริ่มแรกจึงเลี้ยงเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ พร้อมใช้ใช้ที่ฟาร์มเป็น “ศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงไก่ตะเภาทองสุพรรณบุรี” เพื่ออบรมเกษตรกรที่สนใจ โดยที่ฟาร์มนั้นจะเน้นการเลี้ยงพ่อ-แม่พันธุ์ มีอยู่ราว  1,000 ตัว เพื่อผลิตลูกไก่ส่งต่อให้เกษตรกรเลี้ยงต่อเกษตรกรอาทิตย์ละ 1,000 ตัว ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายเลี้ยงทั้งหมดราวๆ 1 หมื่นตัว เพื่อส่งลูกค้าทั้งโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหารชั้นนำเดือนละ 3,000-4,000 ตัวโดยที่เขาเป็นผู้รับซื้อเอง และอีกส่วนหนึ่งในตลาดท้องถิ่นที่เกษตรกรขายเอง

            “การเลี้ยงไก่ตะเภาทองเกษตรศาสตร์น่าสนใจมาก  เราสามารถเลี้ยงไว้เพื่อบริโภคเองก็ได้ เพราะเนื้ออร่อยเหมือนไก่บ้านแต่นุ่มกว่า หรือเลี้ยงเพื่อขายก็ได้ เลี้ยงง่าย แข็งแรงโตเร็ว และทนโรค สามารถปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติได้ง่าย อีกอย่างลงทุนไม่มากด้วย ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3-4 เดือน ตัวผู้จะมีน้ำหนักเฉลี่ยที่ 2.2 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียราว 1.7-1.8  กิโลกรัม  ซึ่งจะเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดในการจับขาย เฉลี่ยวแล้วตัวหนึ่งจะได้กำไรตัวละ 40 บาท “เขา กล่าว (รายละเอียดตามในคลิป)