ขับเคลื่อนสุดขีดหวังให้คนไทยดื่มนมปีละ 25 ลิตรในปีหน้า

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯ-สสส.-เครือข่ายนมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน จับมือขับเคลื่อนรณรงค์ ให้คนไทยหันมาดื่มนม ภายใตแนวคิด “นมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน” เนื่องในวันดื่มนมโลก 2562 หวังให้คนไทยหันมาดื่มได้คนละ 25 ลิตรต่อปี ภายในปี 2563 หลังงานวิจัยพบว่า เยาวชนไทยอายุ13-20 ปี กินนมลดลงกว่าครึ่งจากสัดส่วน 89% เหลือเพียง 44%  เมื่อเทียบกับเด็กวัยอนุบาลและประถมศึกษา ขณะที่ผู้สูงอายุวัยชรา ไม่ดื่มนมเลย

       นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานงานแถลงข่าวเปิดตัวเครือข่าย “นมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน” เนื่องในวันดื่มนมโลก 2562 ว่า ตามที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(Food and Agriculture Organization of the United Nations หรือFAO) กำหนดให้ทุกวันที่1 มิถุนายนของทุกปีเป็น “วันดื่มนมโลก” (World Milk Day) เพื่อสนับสนุนและกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการบริโภคนมอีกทั้งยุทธศาสตร์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดเป้าหมายเพิ่มการบริโภคนมของคนไทยจาก 18 ลิตรต่อคนต่อปีเป็น 25 ลิตรต่อคนต่อปี ภายในปี2563 

                                                                    ดุจเดือน ศศะนาวิน

       อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นมกระทรวงเกษตรฯได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องคือการพัฒนาต้นน้ำและกลางน้ำโดยพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและคุณภาพน้ำนมดิบรวมถึงสหกรณ์โคนมและศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบให้ได้มาตรฐานเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภครวมถึงเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมนมเมื่อทุกภาคส่วนร่วมมือกันคนไทยก็จะได้ดื่มนมคุณภาพดีรวมทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมนมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไปพร้อมกันนี้ได้เป็นสักขีพยานในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเป็นภาคีเครือข่ายนมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวันอีกด้วย

            ด้าน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า  สสส.ในฐานะหน่วยงานที่ผลักดันรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับคนไทยในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพการจัดตั้งเครือข่ายรณรงค์การบริโภคนมนับเป็นครั้งแรกโดยมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนให้คนไทยได้ดื่มนมตามความเหมาะสมของแต่ละช่วงอายุนมมีคุณภาพดีเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรงการส่งเสริมการบริโภคนั้นนอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพยังสามารถดื่มทดแทนการดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีประโยชน์เช่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน อาทิ เครื่องดื่มชาและน้ำอัดลม ซึ่งที่ผ่านมาได้มีกิจกรรมรณรงค์ต่างๆเช่นกิจกรรมดื่มนมชมบอลที่มีกลุ่มนักศึกษาในสถาบันการศึกษาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักหรือกิจกรรมปาร์ตี้โนแอลในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่เป็นต้น 

            ส่วน นายวิเชียร ผลวัฒนสุข ประธานเครือข่ายนมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน กล่าวว่า การก่อตั้ง“เครือข่ายนมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน” จะเป็นกลไกสำคัญที่จะเชื่อมโยงและบูรณาทุกภาคส่วนทั้งหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญสมาคมต่างๆเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องแก่สังคมไทยเกี่ยวกับการบริโภคนมนอกจากจะเป็นการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานของภาคเกษตรโคนมแล้วยังเป็นความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนให้คนไทยทุกเพศทุกวัยมีสุขภาพแข็งแรงด้วยการดื่มนม

            สำหรับผลสำรวจพฤติกรรมการดื่มนมของคนไทยประจำปี2562 โดยสวนดุสิตโพลพบว่า ปัจจุบันเยาวชนไทยอายุ13-20 ปีมีการบริโภคนมลดลงกว่าครึ่งจากสัดส่วน 89% เหลือเพียง 44% เมื่อเทียบกับเด็กวัยอนุบาลและประถมศึกษา ส่วนในกลุ่มผู้สูงวัย 60 ปีขึ้นไปนั้นพบว่ามีสัดส่วนที่ไม่ดื่มนมโคเลยถึง 1 ใน 4 จากผู้ที่เข้าร่วมการสำรวจโดยกลุ่มผู้ที่ไม่บริโภคนมโคนั้น หันไปดื่มนมถั่วเหลือง 43% เครื่องดื่มกาแฟ 22% และนมเปรี้ยว14% ตามลำดับ

           สาเหตุหลักเกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการดื่มนมเและความไม่มั่นใจในคุณภาพของน้ำนมโคส่งผลให้อัตราการดื่มนมของคนไทยยังคงมีปริมาณน้อยมากเฉลี่ยเพียงคนละประมาณ18 ลิตร/คน/ปี(หรือเพียงสัปดาห์ละ2 แก้วเท่านั้น)  สำหรับแนวคิดของการจัดตั้งเครือข่าย“นมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน”  ในวันดื่มนมโลกในปีนี้นั้นเพื่อรณรงค์ให้คนไทยทุกวัยดื่มนมโคอย่างน้อยวันละ1-2 แก้วเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ