วันที่ 12 ตุลาคม 2567 นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานชิงถ้วยพระราชการประกวดควายไทย ควายงาม จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2567 ทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมี นายนพดล จอมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เข้าร่วม ณ สวนสาธารณะหนองมนต์ ตำบลอุ่มเม่า อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
การจัดงานประกวดควายไทย ควายงาม จ.ร้อยเอ็ด ประจำปี 2567 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรและผู้สนใจหันกลับมาเลี้ยงควายเพิ่มมากขึ้น และอนุรักษ์ควายไทยให้เป็นมรดกของคนไทย เป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอดวิถีควายไทยให้อยู่คู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งได้รับการสนับสนุนและให้ความร่วมมือจากกลุ่มคนเลี้ยงควายทั่วประเทศ ภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนชาวร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินโครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือปลักไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กระบือปลักไทยให้มีลักษณะดี มีคุณภาพ เพิ่มจำนวนกระบืออันจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ส่งเสริมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย โดยใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่นำกระบือไปใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตร ต่อยอดการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการอนุรักษ์สายพันธุ์กระบือปลักไทย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ นับว่าเป็นการบูรณาการที่สำคัญต่อวงการปศุสัตว์ไทย ที่มีจุดมุ่งหมายที่ดีต่อการเลี้ยงการพัฒนาควายไทย ควายงาม รวมถึงการส่งเสริมอาชีพทางการเกษตรและปศุสัตว์ให้มีคุณภาพ ส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเกษตรและปศุสัตว์ ประเภทการเลี้ยงควาย
สำหรับภายในงานงานมีกิจกรรมหลากหลาย ทั้งในการพัฒนาพันธุ์สัตว์ การดูแลสัตว์ เพื่อพัฒนาให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจ ร่วมถึงการนำเทคโนโลยีการนำสัตว์เลี้ยงประเภทควายเข้าไปอยู่ในเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อยกระดับการเลี้ยงควาย ตลอดจนการประกวดชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้เกษตรกรได้เห็นคุณค่าการเลี้ยงควายไทยให้อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทย กระตุ้นการเลี้ยงควายไทยให้มีการพัฒนารูปแบบการเลี้ยงอย่างยั่งยืน