ตะลุยอาณาจักรเมล่อน สวนเดียว 2 จังหวัด ณ “วาสนาฟาร์ม” ดูเขาอย่างไรจึงมีคุณภาพ ขาย กก.ละ 280 บาท?

  •  
  •  
  •  
  •  

ดลมนัส กาเจ

“สีสันโลกเกษตร” วันอาทิตย์นี้ เราย้อนกลับไปตะลุยอาณาจักรเมล่อนรายใหญ่อันดับต้นๆของประเทศไทย บนพื้นที่ผลิตกว่า 150 ไร่ ณ  “วาสนาเมล่อนฟาร์ม” ที่ตั้งอยู่บนรอยตะเข็บที่คาบเกี่ยวพื้นที่ 2 จังหวัด คือส่วนหนึ่งติดเขต ต.หนองปลิง อ.หนองแค จ.สระบุรี กับ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ของอดีตวิศวกร  “ภานุวัฒน์ อรุณโรจน์ศิริ”  ที่ผลิตเมล่อนป้อนทั้งตลาดบนและตลาดล่างภายใต้เครื่องหมายการค้า “FARM FRESH”

พี่น้องตระกูลอ “รุณโรจน์ศิริ” บุกเบิกทำสวนวาสนาเมล่อน เริ่มที่ ต.หนองปลิง อ.หนองแค ในพื้นที่ 15 ไร่ เมื่อ 22 ปีก่อน และขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมแล้วปัจจุบันกว่า 150 ไร่ เน้นผลิตเมล่อน-แคนตาลูป จนได้รับรางวัลมาตรฐานจีเอพี (GAP) เบื้องต้นส่งขายไปยังตลาดไท และขยายตลาดสู่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โดยแรกเริ่มนั้นมีเมล่อน  8 สายพันธุ์ คือ กลุ่มเมล่อน ได้แก่ ออเรนจ์เน็ต (เนื้อส้ม) กรีนเน็ต (เนื้อเขียว) ไซตามะเมล่อน กลุ่มแคนตาลูป ได้แก่ ท็อปซัน (เนื้อส้ม) ท็อปสตาร์ (เนื้อเขียว) แคนตาลูปสีทอง ได้แก่ ท็อปโกลด์ (เนื้อขาว) โกลเด้น ซัน (เนื้อส้ม) และซันไช่ แอปเปิ้ลเมล่อน ซึ่งเป็นพันธุ์จากไต้หวัน โดยพันธุ์ที่มีความโดดเด่นที่สุดคือ “ไซตามะเมล่อน” ที่มีรูปทรงผลสวย ลายสวย รสชาติอร่อย ในญี่ปุ่นมีการซื้อขายผลสดกันในราคาสูงถึงผลละหลายพันบาท

ภารถวัฒน์ เล่าว่า ในพื้นที่ 150 ไร่แบ่งเป็นปลูกกลางแจ้ง 80 % ที่เหลือปลูกในโรงเรือนและระบบปิดหรืออีแว็ป เน้นในเรื่องของคุณภาพ อันเป็นจุดแข็งผลผลิต โดยเริ่มจากเรื่องของการจัดการดิน ความสะอาดของพื้นที่ และการจัดการเรื่องของกิจกรรมต้น เน้นทำงานให้รวดเร็วในกรณีที่ติดโรคต้องจัดการทันที  1 ต้น จะไว้ 1 ผลเท่านั้น ให้มีความหวานอยู่ที่ 14 บริกซ์

“การผลิตเมล่อนในประเทศไทยที่เราอาจพบเห็นว่าส่วนใหญ่ จะเป็นการปลูกในรูปแบบของโรงเรือน(กรีนเฮ้าส์) ด้วยเหตุผลในเรื่องของการสามารถควบคุมสภาวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการผลิต ดิน ฟ้า อากาศ หรือฤดูกาลซึ่งบางฤดูกาลอาจจะไม่เอื้อให้ทำการผลิตได้ แต่ผมเน้นปลูกในกลางแจ้ง เน้นดูแลและจัดการส่วนให้ถูกวิธีประหยัดต้นทุนได้เยอะ ที่สำคัญ เราเชี่ยวชาญกลางแจ้งมากกว่า ที่มีกรีนเฮ้าส์ด้วยเพราะว่าในบางฤดูกาล เช่น ฤดูฝน ไม่สามารถปลูกได้จำเป็นต้องมีกรีนเฮ้าส์ เพื่อให้มีผลผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะเป็นการรักษาตลาดไว้” ภานุวัฒน์ กล่าว

เขา บอกว่า การปลูกแบบกลางแจ้ง ต้องเน้นในเรื่องของการจัดการดินเป็นอันดับแรก ต้องตรวจสอบแล้วค่า pH แล้วทำการปรับสภาพดินก่อน ถ้า NPK อยู่ในระดับต่ำ ก็จะต้องเติมอินทรียวัตถุเข้าไป หลังจากเตรียมดินเรียบร้อยจากนั้นจะเป็นการวางระบบการให้น้ำ และก็คลุมพลาสติก จึงลงต้นกล้าที่เพาะเตรียมไว้พออายุได้ 12 วัน ออกผลเท่าไข่เป็ดเด็ดทิ้งไว้ 1 ผลเท่านั้น ไว้ใบทั้งหมด 25 ใบ ลูกที่ดีที่สุด ข้อประมาณที่ 13 ของลำต้น เก็บไว้จนถึงเก็บเกี่ยวซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีอายุไม่เท่ากันทั้งแต่ 65-90 วัน

สำหรับเมล่อนพันธุ์ที่สุดและราคาแพงที่สุดคือ“ไซตามะเมล่อน” นำเข้าจากจากเมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น เนื้อเนื้อส้ม ( orange)ใน   1 ปีปลูกได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นคือช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ก็จะไปเก็บกลาง ๆ เดือนมกราคม ขายตลาดบนราคากิโลกรัมละ 280 บาท แต่หน้าฟาร์มขายกิโลกรัมละ 200 รองลงมาเป็น “อิบารากิ” ตัวนี้เป็นเซมิเอิร์ลเมล่อนญี่ปุ่น และ โกลเด้น เมล่อน จากเนเธอร์แลนด์ แล้วก็รองลงไปก็จะเป็นเมล่อนแบบปกติ อันนี้คือพันธุ์ที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน (รายละเอียดในคลิป)