ซีพีเอฟ ปั้น “ยุวนวัตกร” เติมทักษะ Coding น้องๆ รร.บ้านบุ (ประชารัฐพัฒนา) จ.นครราชสีมา ในโครงการ “คอนเน็กซ์  อีดี”  

  •  
  •  
  •  
  •  
“การศึกษา  คือ  รากฐานของการพัฒนาประเทศ ถือว่ามีความสำคัญมาก  และรากฐานของการพัฒนาประเทศจะเข้มแข็ง มั่นคงได้  ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา” ดร.อนงค์  อมรรัตนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านบุ (ประชารัฐพัฒนา) สะท้อนมุมมองต่อความสำคัญของความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับการพัฒนาการศึกษา  ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดในการขับเคลื่อนการยกระดับการศึกษาของไทย ภายใต้ความมุ่งมั่นของมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา “คอนเน็กซ์ อีดี”     (CONNEXT ED)
โรงเรียนบ้านบุ (ประชารัฐพัฒนา)  จังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงเรียนขยายโอกาสที่เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวนนักเรียน 547 คน  โรงเรียนเข้าร่วมโครงการคอนเน็กซ์ อีดี โดยมี บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ สนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการ “ยุวนวัตกร” ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3  มุ่งเน้นให้นักเรียนมีทักษะกระบวนการคิด การวางแผน ความคิดสร้างสรรค์ และสร้างทักษะให้นักเรียนในการเขียนโปรแกรมควบคุมบอร์ดสมองกล รวมไปถึงการนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อ ใช้ในชีวิตประจำวัน และประกอบอาชีพ
ดร.อนงค์   ผู้อำนวยการ รร.บ้านบุ กล่าวว่า   โครงการยุวนวัตกร เป็นโครงการที่ตอบโจทย์เด็กไทยยุคใหม่ ที่จะต้องมีทักษะ เข้าถึงเทคโนโลยี  ซึ่งปัจจุบันนักเรียนมีความสนใจในเรื่องดังกล่าวแต่โรงเรียนยังขาดทรัพยากรและอุปกรณ์ ต้องขอขอบคุณซีพีเอฟและมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา  เข้ามาสนับสนุนทำให้โรงเรียนมีการพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่น่าพอใจ ทำให้นักเรียนมีทักษะด้านเทคโนโลยี ก้าวทันต่อโลกศตวรรษที่  21  และในอนาคตคาดหวังว่านวัตกรน้อย มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนด้านเทคโนโลยี และชุมชนนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพได้
ด้านคุณครูธงชัย ขำเทศเจริญ คุณครูผู้รับผิดชอบโครงการยุวนวัตกร  กล่าวว่า  โครงการยุวนวัตกร  ดำเนินการจัดการเรียนการสอนกับกลุ่มสนใจหรือกลุ่มยุวนวัตกร ในรายวิชาชุมนุมคอมพิวเตอร์  โดยมีการเรียนการสอนในชั่วโมง และการฝึกอบรม  โดยการเรียนจะเป็นการใช้บอร์ดสมองกลในการควบคุมการเปิดปิดอุปกรณ์ เช่น การใช้แสงในการควบคุมการเปิดปิด การใช้อุณหภูมิในการเปิดปิดพัดลม การใช้ IOT ในการเปิดปิดหลอดไฟ  และจัดการเรียนการสอนในรายวิชาการควบคุมบอร์ดสมองกล โดยใช้บอร์ดสมองกล KidBright ซึ่งจะเป็นการเรียนรู้การทำงานของอุปกรณ์เซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้ง Input และ Output แล้วเขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานของเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น การเขียนโปรแกรมควบคุมเซ็นเซอร์วัดระยะห่าง  เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้แล้วจะนำความรู้เหล่านี้ไปใช้ในรายวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ เช่น เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง นำไปสร้างโครงงานเรื่องเครื่องกั้นรถอัตโนมัติ โครงงานเรื่องโรงจอดรถอัตโนมัติ  หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุ นำไปสร้างโครงงานเรื่องถังขยะอัตโนมัติ โครงงานเรื่องอ่างล้างมืออัตโนมัติ  เป็นต้น
” รู้สึกดีใจและขอขอบคุณซีพีเอฟที่ให้การสนับสนุนงบประมาณ เพื่อใช้สำหรับเป็นสื่อการเรียนการสอน ทำให้เด็กๆ ได้รับความรู้เพิ่มเติมจากสื่ออุปกรณ์ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้ทางโรงเรียน รวมทั้งการจัดกิจกรรมอบรมต่างๆ นอกจากนี้ เด็กๆ ยังสามารถนำไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น  เช่น การทำโครงการในระดับชั้น ปวช. ปวส. นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน”  คุณครูผู้รับผิดชอบโครงการยุวนวัตกร กล่าว
นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ  สะท้อนถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้จากทักษะการ Coding สามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน อย่างด.ช.ไพศาล  ดอนเกษม หรือ  น้องหยาง อายุ 15 ปี กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่  3  (ม.3)กล่าวว่า  ได้เรียนรู้กระบวนการทำบอร์ดสมองกล KidBrightและนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เช่น ระบบเปิดและปิดไฟอัตโนมัติที่เราติดตั้งที่โรงเรียน และผมได้นำไปใช้ที่บ้านด้วย  นอกจากนี้ โครงการยุวนวัตกร  ทำให้ผมได้รับความรู้เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้เป็นพื้นฐานการเรียนรู้ต่อไปในสายอาชีพ ดีใจที่โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟและคอนเน็กซ์ อีดี ทำให้นักเรียนมีอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ดีขึ้น
ด้าน ด.ช.บุลฤทธิ์ หิลแก้ว หรือ น้องนิว อายุ 14  ปี กำลังศึกษาชั้น ม. 2  ที่มีโอกาสได้เรียนรู้ และฝึกเขียนบอร์ดสมองกลในโครงการยุวนวัตกร และมีได้ฝึกทดลองทำโครงงานเครื่องกั้นรถอัตโนมัติ หรือการใช้ IOT ในการเปิดปิดหลอดไฟ  ซึ่งได้นำไปใช้ประโยชน์กับที่บ้านด้วย  ขอขอบคุณซีพีเอฟและโครงการคอนเน็กซ์ อีดี ที่มอบโอกาสให้ โรงเรียนของเรา  ทำให้เราได้คิดค้นสิ่งใหม่ๆ และได้ความรู้ทางอิเล็คทรอนิคส์ที่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไปได้
ทั้งนี้่  ซีพีเอฟเป็น 1ใน 12 บริษัทเอกชนที่ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา ซึ่งปัจจุบัน มีโรงเรียนภายใต้การดูแล 298 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสระบุรี โดยในปี 2566  เน้นส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิชาการ วิชาชีพและเทคโนโลยี เพิ่มคุณภาพการเรียนการสอน และส่งเสริมการนำทักษะใหม่ๆและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับโลกในศตวรรษที่ 21 มาใช้ อาทิ การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในรูปแบบโค้ด (Coding) การจัดการเรียนการสอนภายใต้โครงการ Proactive teacher for active learning และโครงการ STEM Education เพื่อยกระดับผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนทั้ง 5 ด้าน  คือ ด้านผู้เรียน  ด้านการมีส่วนร่วม   ด้านผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษา  ด้านหลักสูตรและการสอน ด้านโครงสร้างพื้นฐาน   มุ่งสร้างเด็กดีและเด็กเก่ง ตามเป้าหมายของคอนเน็กซ์ อีดี