ดลมนัส กาเจ
ได้มีโอกาสย้อนกลับไปปัตตานีอีกครั้ง เราใช้เวลาเพียงสั้นๆตอนยามเช้าในวันท้องฟ้าครึม สัมผัสมนต์เน่ห์ ชมวิถีชีวิตชาวชุมชนที่มีอาชีพประมงชายฝั่งเลี้ยงหอย ปู ปลา ณ “สะพานไม้บานา” หรือสะพานไม้บ้านบานา ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ชุมชนต้นแบบ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา ได้ดำเนินงานวิจัยด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชนต้นแบบ
เล่ากันว่า “บานา” มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน คำว่า บานา เป็นภาษาเปอร์เซีย ซึ่งมีความหมายว่า เมืองท่าเรือ มีบันทึกไว้ว่า บานา ในอดีตนั้นเป็นเมืองท่าของอาณาจักรมลายูลังกาสุกะฝั่งทะเลตะวันออก และเดดาห์ โดยมีเรือสินค้ามาจอดนับร้อยลำ ส่วนปัตตานี เพื้ยนมาจากภาษามาลายูว่า ปาตาอีนี ซึ่งแปลว่า “ชายหาดแห่งนี้”
สะพานบานา เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่สร้างขึ้นมาเพื่อแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติป่าชายเลน ซึ่งครอบคลุม 5 พื้นที่คือ บานา ตันหยงลูโล๊ะ แหลมโพธิ์ บาราโหม และบางปู ตัวสะพานมีลักษณะทอดยาวลงไปสู่ อ่าวปัตตานี สามารถไปเดินเล่นชมบรรยากาศท้องทะเล และป่าชายเลน มีศาลาสำหรับนั่งเล่น และมุมถ่ายรูปโดยเน้นกิจกรรมล่องเรือลอดใต้อุโมงไม้โกงกาง รับประทานอาหารท้องถิ่น ถีบเรือกระดานเก็บหอยเป็นต้น (ชมคลิปประกอบ)
