“เฉลิมชัย” ชี้ชัดภาคเกษตรไทยต้องเปลี่ยนเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตด้วยการใช้นวัตกรรม-เทคโนโลยี

  •  
  •  
  •  
  •  

“เฉลิมชัย” ยก “งานเกษตรภาคใต้” ถือเป็นงานเกษตรที่ยิ่งใหญ่ของเมืองใต้ เผยกระทรวงเกษตรฯแจมด้วยภายใต้แนวคิด “เกษตรยุคโควิดพลิกวิกฤตสู่ความยั่งยืน” ชี้ภาคการเกษตรไทยถึงยุคเปลี่ยนแล้ว ต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนผสมผสานวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างสมดุล เพื่อสร้างมูลค่าแก่ภาคการผลิต ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย        อย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้าให้ภาคเกษตรของไทยสู่การเป็นครัวของโลก

วันที่ 15 สิงหาคม 2565 ดร.เฉลิมชัย   ศรีอ่อน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดงานเกษตรภาคใต้ครั้งที่ 28 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 21 สิงหาคม 2565 ณ คณะทรัพยากรธรรมชาติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นงานเกษตรแฟร์ที่สำคัญของจังหวัดสงขลาและภาคใต้โดย ซึ่งปีที่ผ่านมามีผู้เข้าชมงานประมาณ 5 แสนคนมีเงินหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท

สำหรับการจัดงานเกษตรภาคใต้ครั้งที่ 28 ในปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เข้าร่วมจัดงานในหัวข้อ “เกษตรยุคโควิดพลิกวิกฤตสู่ความยั่งยืน” เพื่อนำเสนอให้เห็นถึงความสำคัญและบทบาทของภาคการเกษตรในทุกศาสตร์ที่เป็นรากฐานสำคัญในการนำประเทศให้ก้าวผ่านสถานการณ์วิกฤตโดยอาศัยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนผสมผสานวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างสมดุลและสามารถสร้างมูลค่าแก่ภาคการผลิตทางการเกษตรยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยคืนความสุขให้แก่สังคมเกษตรชุมชนและประชาชนทั่วไปได้อย่างยั่งยืน

ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การฝึกอบรมอาชีพ การประชุมสัมมนาทางวิชาการการแสดงนิทรรศการทางด้านการเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ การประกวดแข่งขันการสาธิตการให้บริการวิชาการการแสดง และจำหน่ายสินค้าและผลผลิตเกษตรเครื่องจักรกลการเกษตรและสินค้าอื่นๆรวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมตลอดจนการนำนักเรียนเข้าชมงานด้วย

ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า ทุกวันนี้ภาคการเกษตรต้องมีการเปลี่ยนแปลงและต้องมีการทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของภาครัฐภาคเอกชน นักวิชาการ สถาบันการศึกษาและเกษตรกรซึ่งจะต้องร่วมกันในการพัฒนาเกษตรกรให้รู้จักเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมและใช้งานวิจัยมาเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์หรือเพิ่มมูลค่าจนเกิดเป็นเกษตรมูลค่าสูงและเกษตรกรรมยั่งยืน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคโควิด-19 คือเกษตรกรกลายเป็นพ่อค้าเต็มตัวสามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์รู้จักตลาดจากนโยบายตลาดนำการผลิตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รู้ว่าตลาดต้องการสินค้าประเภทไหนและจะผลิตสินค้าประเภทไหนเพื่อรองรับความต้องการและไม่ให้ล้นตลาด

“ภาคการเกษตรตอนนี้ ปรับเปลี่ยนจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว สู่การปลูกพืชแบบผสมผสานทำให้สามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้นและสำหรับพื้นที่ภาคใต้มีความได้เปรียบทางด้านภูมิประเทศโดยเฉพาะในเรื่องของปาล์มและยางพาราแต่กระทรวงเกษตรฯต้องการให้ภาคการเกษตรมีทางเลือกมากขึ้นจึงมีการสนับสนุนการปลูกพืชผสมผสานเช่นพริกไทย โกโก้ กาแฟหรือการเลี้ยงสัตว์เป็นต้นซึ่งคาดว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้และสร้างความมั่นคงให้กับพี่น้องเกษตรกรโดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯมีนโยบายเพื่อสร้างการอยู่ดีกินดีให้แก่เกษตรกรเช่นการส่งเสริมการเลี้ยงโคการเลี้งแพะเป็นต้นเชื่อว่าถ้าสามารถสร้างสถานะทางสังคมและเศรษฐกิจของเค้าดีขึ้นได้จะเป็นการแก้ปัญหาในพื้นที่ได้ด้วย” ดร.เฉลิมชัย กล่าว

รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันสถาบันอุดมศึกษาได้ผลิตบุคลากรทางด้านการเกษตรที่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมและนำงานวิจัยเพื่อเข้ามาทำงานในภาคการเกษตรมากขึ้น และในส่วนของกระทรวงเกษตรฯเองก็สนับสนุนในเรื่องของ Young Smart Farmer ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างเกษตรมูลค่าสูงหรือเกษตร 4.0 ต่อไป