ดลมนัส กาเจ

    ลมทะเลพัดกระโชกแรง ไล่ความร้อนเปลวแดดที่ระอุในยามบ่าย ขณะที่เราก้าวขาลงจากรถเดินจ้ำๆ มุ่งหน้าสู่อาคารรูปทรงยาวที่ยื่นมากลางทะเลที่ถูกเนรมิตเป็นอาณาจักของอาหารทะเลสดๆ เป็นๆ มารวมอยู่ที่เดียวกันให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้อย่างสะดวก ณ ตลาดหอย ปู ปลา กลางทะเลอันสวยงามของเมืองชลฯ

    หากย้อนไปเมื่อปลายปี 2563 มาถึงธันวาคม 2564  ท่าเทียบเรือและตลาดประมงอ่างศิลา “Fish Marketing Organization” ตลาดปลากลางทะเลแห่งแรกในประเทศไทย เป็นตลาดที่ขายอาหารทะเลสดๆที่คุณภาพอีกแห่งขององค์การสะพานปลา ที่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เปิดบริการมาครบขวบปีแล้ว

 

      ตลาดประมงอ่างศิลา หรือที่รู้จักของคนในพื้นที่ว่า ตลาดปลาหรือสะพานปลาแห่งใหม่ของ จ.ชลบุรี ที่ยื่นออกไปกลางทะเลลึก หากมองชายฝั่งทอดสายไปจะแลเห็นแผงขายอาหารทะเลสดเรียงรายยาวสุดแนวว่ากันว่ามีทั้งหมด  318 แผง

     เมื่อเดินเข้าไปสัมผัส จะพบว่าอาหารทะเลที่วางขายเป็นระเบียบอย่างลงตัว มีอาหารทะเลสดๆครบครันทั้งหอย ปู ปลา ที่หลากหลายและหลายชนิด รวมไปถึงอาหารทะเลที่แปรรูปอีกด้วย ที่วางขายทั้งสองฝากฝั่ง ตรงกลางอาคารเป็นทางเดินและมีเก้าอี่หรือม้านั่งให้นั่งพักวางตลอดแนวตรงกลาง ราวเป็นเส้นแบ่งของร้านค้าที่แยกเป็นสองฝั่ง

   

    “สีสันโกลกเกษตร” เว็ปไซต์ “เกษตรทำกิน” ได้มีโอกาสไปสัมผัส ณ ตลาดแห่งนี้พบว่า เริ่มมีความคึกคักในระดับหนึ่ง ซึ่งจากการสอบถามพ่อค้า แม่ค้า ต่างบอกว่า นับตั้งแต่รัฐบาลปลดดาวน์อันเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และรัฐบาลเปิดประเทศมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ทำให้ท่าเทียบเรือและตลาดประมงอ่างศิลาเริ่มคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทำให้บางแผงยอดขายได้วันละถึง 3 หมื่นบาท

     สำหรับอาหารทะเลที่วางจำหน่ายนั้นไม่เพียงแต่สดจากทะเล หากแต่บางอย่าง บางชนิดก็ยังเป็นๆโดยเฉพาะปู ทั้งปูม้า ที่มีราคาขายตั้งแต่ กก.ละ 250-500 บาท รวมถึงปูทะเลแล้ว ยังมีการบริการนึ่งฟรีอีกด้วย (รายละเอียดในคลิป)