ก.เกษตรฯ ยึดทุ่งกุลาร้องไห้ จัดงานวันดินโลกปีนี้ยิ่งใหญ่ “พิชิตดินเค็ม เติมเต็มผลผลิต สร้างชีวิตเกษตรกร”

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย สมาคมอนุรักษ์ดินและน้ำ สมาคมดินโลก และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติเตรียมจัดงานวันดินโลก World Soil Day 2021 พิชิตดินเค็ม เติมเต็มผลผลิต สร้างชีวิตเกษตรกร ระหว่างวันที่ 2 – 5 ธ.ค. 64 ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

        ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมแถลงข่าวเปิดงาน “วันดินโลก World Soil Day 2021 พิชิตดินเค็ม เติมเต็มผลผลิต สร้างชีวิตเกษตรกร” มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

                                                      เฉลิมชัย ศรีอ่อน

      ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า จากการที่สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (International Union of Soil Sciences–IUSS) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล ประกาศนียบัตร และประกาศสดุดีพระเกียรติคุณ “นักวิทยาศาสตร์ดิน เพื่อมนุษยธรรม” (The Humanitarian Soil Scientist) แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และต่อมาองค์การสหประชาชาติได้ประกาศพระเกียรติคุณ โดยให้การรับรองให้วันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพเป็นวันดินโลก (World Soil Day)

        ในปีนี้กรมพัฒนาที่ดิน ร่วมกับสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย สมาคมอนุรักษ์ดินและน้ำ สมาคมดินโลก และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้กำหนดจัดงานวันดินโลก 2564 ในหัวข้อ “Halt soil salinization, boost soil productivity : พิชิตดินเค็ม เติมเต็มผลผลิต สร้างชีวิตเกษตรกร” โดยมีเป้าหมายหลักที่ต้องการผลักดันให้เกิดข้อสรุปหรือผลกระทบเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของโลก เนื่องจากในปัจจุบันทั่วโลกมีพื้นที่มากกว่า 5.2 ล้านไร่ ที่ประสบปัญหาดินเค็ม

       ดงนั้นจึงมีความจำเป็นต้องจัดการกับความเค็มของดิน โดยการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับดินและการจัดการดินเค็มอย่างครบวงจร เพื่อส่งเสริมให้รัฐบาล องค์กร ชุมชน และประชากรโลก มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงดินเค็มในเชิงรุก เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเพาะปลูกพืชและสร้างแหล่งผลิตอาหารให้มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นความสำคัญของการร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาของดิน ซึ่งจะส่งผลถึงความมั่นคงและความปลอดภัยทางด้านอาหาร เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

        นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่ต้องการขจัดความอดอยากหิวโหย หรือ Zero Hunger ให้ได้ภายในปี พ.ศ. 2573 โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมขององค์กรและบุคคลในรูปแบบของการร่วมมือ และสร้างเครือข่ายผ่านนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือในการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดินและการรักษาระบบนิเวศให้สมบูรณ์ เพื่อเพิ่มพื้นที่ผลิตอาหารและช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์

        สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมพัฒนาที่ดิน ได้จัดงานวันดินโลกขึ้น เพื่อน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติคุณในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอดพระราชปณิธานแห่งพระบรมราชนกนาถ เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรดินและการพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่อง

        ทั้งได้บูรณาการการทำงานระหว่างเครือข่ายการพัฒนาด้านทรัพยากรดินที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา โรงเรียน ชุมชน เกษตรกร  ประชาชนทั่วไป และหน่วยงานต่างประเทศ ขับเคลื่อนและรณรงค์การจัดงานนิทรรศการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับวันดินโลกตลอดเดือนธันวาคม เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรดิน ที่เป็นแหล่งกำเนิดปัจจัย 4 ของมนุษย์ โดยเฉพาะยาและอาหาร ให้มีปริมาณที่เพียงพอและมีคุณภาพสามารถยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์เกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชา และ 3’s (Safety- Security- Sustainability) ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

        ด้าน นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานวันดินโลกปี 2564 นี้ ได้กำหนดจัดขึ้น ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งในอดีตเป็นพื้นที่แห้งแล้งและดินมีความเค็ม กรมพัฒนาที่ดิน ได้เข้าไปดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำอย่างเป็นระบบด้วยการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปรับปรุงบำรุงดินในทุกมิติ มาใช้ในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ทำให้พื้นที่ดินเค็มกลายเป็นดินเค็มที่มีความพอดี และนั่นคือคุณสมบัติพิเศษของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ทำให้ข้าวที่ปลูกที่นี่มีความอร่อย หอม แตกต่างจากที่อื่น สามารถเป็นแบบอย่างในการพัฒนาการเกษตรของประเทศต่อไป

        ในส่วนของกิจกรรมภายในงาน มีกิจกรรม “ชม ชิม ช้อป แชะ” โดยแต่ละกิจกรรมมีรายละเอียด ดังนี้ “ชม” นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติแสดงพระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาที่ดิน และพระราชกรณียกิจที่สำคัญของในหลวงรัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 และสมเด็จ-พระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นิทรรศการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มเพื่อการเกษตรของประเทศไทย การพัฒนาทุ่งกุลาร้องไห้ที่มีสภาพทั้งน้ำท่วม แห้งแล้ง และดินเค็ม ให้เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก “ชิม” ข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียวที่หอมนุ่ม อาหารพื้นเมืองท้องถิ่นวิถีอีสานจากกุ้งฝอย หอยขม ปูนา ปลาหลดและการนำเกลือจากดินมาใช้ถนอมอาหารทำปลาร้า ปลาส้ม ปลาแดดเดียวรสเลิศของภาคอีสาน

         “ช้อป” ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของดีทุ่งกุลา 5 จังหวัด ข้าวหอมมะลิ ผ้าไหม ผ้าฝ้ายคุณภาพดี ผลิตภัณฑ์ OTOP “แชะ” เช็คอิน ถ่ายภาพกับทิวทัศน์สวยงามภายในงาน ทุ่งรวงทอง ทุ่งปอเทือง ทิวยูคาบนคันนาทองคำ พร้อมกับเก็บเกี่ยวความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการดินมากมาย จากนิทรรศการโปรแกรมการฝึกอบรม เวทีวิชาการ เวทีโสเหล่เสวนากับปราชญ์ชาวบ้าน รับของที่ระลึกเป็นความทรงจำวันดินโลก 2564 จึงขอเชิญชวนเกษตรกรและประชาชนร่วมกิจกรรมวันดินโลก ในระหว่างวันที่ 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจ Facebook กรมพัฒนาที่ดิน เพจ Facebook World Soil Day วันดินโลก