“เฉลิมชัย”เปิดงานเกษตรภาคใต้ ชี้ชัดไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลง แต่ไทยหนีไม่พ้นจากภาคการเกษตร

  •  
  •  
  •  
  •  

        วันที่ 14 สิงหาคม 2562 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดงานเกษตรภาคใต้ ครั้งที่ 27 ณ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลาว่า งานเกษตรภาคใต้เป็นงานที่คณะทรัพยากรธรรมชาติได้จัดเป็นประจำทุกปีเพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ เป็นเวทีซื้อขายสินค้าและผลผลิตการเกษตร เป็นเวทีให้นักศึกษาพัฒนากระบวนการทำงานด้วยการปฏิบัติงานจริง และเป็นงานประจำปีที่สำคัญของจังหวัดสงขลาและภาคใต้

       จากผลการประเมินงานในช่วงปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมงานประมาณ 5 แสนคน มีเงินหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตรและชุมชน โดยการจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน และผู้ประกอบการร้านค้าประมาณ 700 ราย ร่วมกันจัดงานในหัวข้อ “เกษตรประณีต เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน”

           ทั้งนี้เพื่อนำเสนอการทำการเกษตรตามศาสตร์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยอาศัยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน ผสมผสานวิทยาการและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างสมดุล และสามารถสร้างมูลค่าแก่ภาคการผลิตทางการเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย คืนความสุขให้แก่สังคมเกษตร ชุมชน และประชาชนทั่วไปได้อย่างยั่งยืน

         สำหรับกิจกรรมในงาน ประกอบด้วย การฝึกอบรม ประชุม สัมมนาทางวิชาการ การแสดงนิทรรศการทางด้านการเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ การประกวดแข่งขัน การสาธิต การให้บริการวิชาการ การแสดงและจำหน่ายสินค้าและผลผลิตเกษตรเครื่องจักรกลการเกษตรและสินค้าอื่น ๆ รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรม

       อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร พื้นฐานหลักที่สำคัญของประเทศไทยยังคงหนีไม่พ้นภาคการเกษตร เพราะการเกษตรเป็นต้นน้ำที่สำคัญของภาคการผลิตอื่น ๆ การที่คณะทรัพยากรธรรมชาติในฐานะสถาบันการศึกษาทางการเกษตรและทรัพยากรได้จัดงานเกษตรภาคใต้ขึ้น เพื่อเป็นแหล่งให้การบริการชุมชน เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักวิจัย นักวิชาการ เกษตรกร และภาคเอกชน

       นอกจากนี้ยังเป็นเวทีแห่งการฝึกฝนประสบการณ์การทำงานแก่นักศึกษา สร้างภาพลักษณ์ความมั่นคงให้แก่พื้นที่ กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในจังหวัดและภูมิภาคได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งดีที่สามารถสร้างขึ้นท่ามกลางปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ จึงเห็นว่านี่เป็นส่วนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยได้บริการชุมชนในรูปแบบที่เป็นรูปธรรมและมีคุณค่าอย่างยิ่ง