
เครือเจริญโภคภัณฑ์ เดินหน้าสนับสนุนความยั่งยื นทางทะเล เปิดตัวสุดยอด Web Application “ควบคู่กับนวัตกรรมธนาคารสัตว์ น้ำ” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่ อยกระดับการติดตามผล การจัดเก็บข้อมูล และการบริหารจัดการข้อมูลอย่ างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับรองความถูกต้ องทางกฎหมายด้วยการจดลิขสิทธิ์ ทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็ นทางการ หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับการสนั บสนุนคือ “ธนาคารสัตว์น้ำ” ซึ่งใช้ระบบออโตเมชั่นควบคุ มการเพาะฟักสัตว์น้ำที่มีไข่ นอกกระดอง เช่น ปูม้า ปูดำ ปูแสม กั้งกระดาน และกุ้งก้ามกราม โดยปัจจุบันมีการติดตั้งระบบดั งกล่าวแล้วใน 21 ชุมชนชาวประมงพื้นบ้านทั้ งในประเทศไทยและต่างประเทศ
SEACOSYSTEM: นวัตกรรมเพื่อทะเลไทย
นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ และกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวถึงแนวทางนโยบายการอนุรั กษ์ ปกป้อง และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลผ่าน แนวคิด“SEACOSYSTEM เพื่อทะเลไทยที่ยั่งยืน” มุ่งเน้นการบูรณาการ ความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้ งในและต่างประเทศ เพื่ออนุรักษ์ปกป้องและฟื้นฟู ทรัพยากรทางทะเล

“นโยบายนี้มีเป้าหมายในการสร้ างสมดุลในสามมิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึง การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับชุ มชน หนึ่งในแนวทางสำคัญของนโยบายนี้ คือการจัดการขยะ ทั้งชายฝั่งและในทะเล โดยมีการขับเคลื่ อนทางนโยบายจากระดับประเทศถึ งระดับจังหวัดและท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนและขั บเคลื่อนกลุ่มประมงพื้นบ้าน เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่ วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล การสื่อสารสาธารณะเป็นอีกหนึ่ งส่วนสำคัญของนโยบายนี้โดยมี การสร้าง ความตระหนักรู้ถึงความสำคั ญของทรัพยากรทางทะเลแก่สังคม เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่ วมในการอนุรักษ์และปกป้ องทะเลไทยให้ยั่งยืนต่อไป นโยบาย “SEACOSYSTEM เพื่อทะเลไทยที่ยั่งยืน” นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพั ฒนาทะเลไทยให้มีความยั่งยื นและสมดุลในทุกมิติ”
จับมือพันธมิตรระดับโลก ขับเคลื่อนการฟื้นฟูทรั พยากรประมง

เครือซีพีผนึกกำลังมหาวิทยาลั ยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี และRamsar Center Japan จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “Crab Bank Regional Workshop” ซึ่งเครือซีพีได้เข้าร่ วมนำเสนอผลงานด้านการพัฒนานวั ตกรรมเพื่อฟื้นฟูทรั พยากรทางทะเลและส่งเสริ มการประมงผ่านแนวทาง นวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำ (Sea innovation) ควบคู่กับฐานข้อมูลดิจิทัลทรั พยากรชุมชนประมงพื้นบ้าน” (Digital Database of Small-Scale Fisheries Resources) กิจกรรมดังกล่าวได้รั บความสนใจจากตัวแทนชุมชนประมง ในพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก กลุ่มชาวประมงจากอินโดนีเซี ยและนักวิชาการจากประเทศญี่ปุ่ น รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่ วนในประเทศไทย
เปิดตัว “ฐานข้อมูลดิจิทัลทรัพยากรชุ มชนประมงพื้นบ้าน”
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ Web Application “ฐานข้อมูลดิจิทัลทรัพยากรชุ มชนประมงพื้นบ้าน” (Digital Database of Small-Scale Fisheries Resources) ที่ช่วยให้ติดตามผล การจัดเก็บข้อมุลและบริหารข้อมู ลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลให้เป็ นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟีเจอร์สำคัญ ได้แก่:

1.จัดเก็บฐานข้อมูลผลผลิตของชุ มชนในรูปแบบดิจิทัล
2.ติดตามผลการดำเนิ นโครงการในแต่ละพื้นที่
3.รองรับมาตรฐาน Traceability และ SEACO Market
4. บริหารจัดการทรัพยากรประมงพื้ นบ้านได้แม่นยำ
5.ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิ ทัลให้กับชุมชนประมง
6. ลดขั้นตอนการเก็บข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ทั้งนี้ ระบบฐานข้อมูลดังกล่าวได้รั บการจดลิขสิทธิ์ “Source Code” อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ในนามเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงคุ ณภาพและศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ ในการอนุรักษ์ ปกป้อง และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ทางทะเล
ก้าวสู่การประมงยุคใหม่เพิ่ มประสิทธิภาพด้วย Web Application

การเปิดตัว Web Application นี้ถือเป็น ก้าวสำคัญของการอนุรักษ์ ปกป้อง และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ทางทะเลของประเทศไทย ที่จะช่วยให้กลุ่ มชาวประมงสามารถบริหารจัดการได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และมีตัวชี้วัดในการทำงาน