นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธานในการทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2566 ณ วัดอุดรนรเขต บ้านอุ่มจาน ตำบลหนองผือ อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอดประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยรายได้จากการทอดกฐินจะนำไปสมทบทุนสร้างศาลาธรรมสังเวชและห้องน้ำในวัดอุดรนรเขต ซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์เพื่อมอบให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหนองผือ ซื้ออุปกรณ์การศึกษามอบให้กับโรงเรียนบ้านอุ่มจานและโรงเรียนบ้านหนองผือ โดยมีนายเสกสรรค์ จันทร์ขวาง นายเชษฐา แหล่ป้อง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. คณะผู้บริหารระดับสูง พนักงาน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566
ในโอกาสนี้ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมงานสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด ตำบลดงครั่งใหญ่ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ที่มีการดำเนินด้านสหกรณ์การเกษตรอย่างครบวงจร อาทิ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจ รับซื้อและรวบรวมผลผลิต อาทิ ข้าวเปลือก ผักและผลไม้ ธุรกิจผลิตสินค้าและแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าอุปโภค-บริโภค และธุรกิจให้บริการและส่งเสริมการเกษตร ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 9,000 ราย โดยทางสหกรณ์การเกษตรมีโรงสีที่มีกำลังการผลิตถึง 120 ตัน/วัน มีโรงปรับปรุงคุณภาพข้าวสารและห้องบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน ISO HACCP ที่ทำให้สามารถผลิตและแปรรูปข้าวหอมมะลิพรีเมียมจำหน่ายได้ถึง 4 แบรนด์ ได้แก่ ตราทุ่งกุลา 101 ถุงสีทอง ตราข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาฟาร์ม และตราข้าวเกิดบุญ โดยทางสหกรณ์การเกษตรได้เตรียมวางแผนส่งออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังต่างประเทศ เพื่อสร้างมาตรฐานและยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรต่อไป
จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้บ้านโพนฮาด ตำบลดงครั่งน้อย อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ที่ดำเนินธุรกิจเกษตรผสมผสาน ได้แก่ ปลูกข้าวอินทรีย์และผักปลอดสารพิษ การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และการทำพัดยศ นอกจากนี้ ยังมีการทำถังขยะเปียกและการทำปุ๋ยอินทรีย์ จนได้รับการยกระดับสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่เปิดโอกาสให้ ผู้ที่สนใจในการทำธุรกิจที่อนุรักษ์ธรรมชาติได้เข้ามาเรียนรู้และสามารถนำองค์ความรู้กลับไปยกระดับการดำเนินงานของตนเอง
จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ร้อยเอ็ด ประกอบธุรกิจในการรวบรวมข้าวเปลือก การแปรรูปข้าวสาร การผลิตเมล็ดพันธุ์และจัดหาสินค้ามาจำหน่าย โดยมีการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อสร้างรายได้ให้กับสมาชิก และนำข้าวเปลือกมาแปรรูปจำหน่ายไปยังตลาดในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการจัดหาปัจจัยการผลิตจำหน่ายให้กับสมาชิกในราคาถูกอีกด้วย และต่อไปได้เดินทางไปชุมชนบ้านมะหรี่ ที่ดำเนินกิจกรรมการปลูกผัก เพาะเห็ด งานหัตถกรรมต่าง ๆ การผลิตน้ำหมักชีวภาพและการคัดแยกขยะ ซึ่งมีการดำเนินงานที่มีมาตรฐานจนได้รับการยกระดับให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของ ธ.ก.ส.
ทั้งนี้สมาชิกของสหกรณ์การเกษตรและวิสาหกิจชุมชนดังกล่าว ได้เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อยตามนโยบายรัฐบาล โดยในระหว่างการเข้าร่วมมาตรการ เกษตรกรจะได้รับการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และการเติมทุนผ่านสินเชื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพักชำระหนี้และป้องกันการก่อหนี้นอกระบบ