“เฉลิมชัย” ดันสุดๆใช้ปุ๋ยแบบผสมผสาน ช่วยเกษตรกรสู้วิกฤตปุ๋ยราคาแพง

  •  
  •  
  •  
  •  

“เฉลิมชัย”  ผลักดันสุดๆให้เกษตรกรสู้วิกฤตปุ๋ยราคาแพง เน้นการใช้ปุ๋ยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กรมส่งเสริมการเกษตร ชี้แนวทางด้วยการใช้ปุ๋ยแบบผสมผสมผสาน เน้นตามใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน เป้าปี 2565 ผลิตปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด และการไถกลบตอซังกว่า  2 ล้านตัน

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยข้อมูลว่า ดินและปุ๋ย เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตให้แก่พืชทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เรื่องการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้อง หรือมีการใช้ปุ๋ยมากเกินความจำเป็น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตในส่วนของปุ๋ยเคมีสูง ประกอบกับประเทศไทยยังคงต้องมีการนำเข้าปุ๋ยจากต่างประเทศ

“สถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาด้านการนำเข้า อาจทำให้ปุ๋ยเคมีราคาสูง และหาซื้อยากมากขึ้น เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ใช้ปุ๋ย ก็จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะถ้าพืชได้รับปุ๋ยหรือธาตุอาหารไม่เพียงพอ จะส่งผลการเจริญเติบโต ผลผลิตลดลง คุณภาพของผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยลดและบรรเทาปัญหาจำเป็นต้องหันมาใส่ใจเรื่องการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด” ดร.เฉลิมชัย กล่าว

ด้านนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรมีการดำเนินการส่งเสริมให้เกษตรกรจัดการดินและการใช้ปุ๋ยได้อย่างถูกต้อง ใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพตามหลักการ 4 ถูก (ถูกสูตร ถูกอัตรา ถูกเวลา และถูกวิธี) ส่งเสริมเกษตรกรใช้ปุ๋ยแบบผสมผสาน รวมทั้งส่งเสริมให้ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินเพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิต ผลผลิตมีคุณภาพ และลดต้นทุนการผลิต ผ่านศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน หรือ ศดปช. มาตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งปัจจุบันมี ศดปช. จำนวน 882 ศูนย์ ตั้งอยู่อำเภอละ 1 ศูนย์ ทั่วประเทศ มีสมาชิก ศดปช. 17,640 ราย โดยสมาชิก ศดปช. มีการยอมรับการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและนำไปปฏิบัติเพิ่มขึ้นทุกปี

ทั้งนี้ ศดปช. เป็นต้นแบบในการขยายผลถ่ายทอดความรู้ด้านการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้องและเหมาะสมไปสู่เกษตรกรทั่วไป และผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา สมาชิก ศดปช. มีพื้นที่การนำเทคโนโลยีฯ ไปใช้เพิ่มขึ้นเป็น 244,853 ไร่ ได้รับผลผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ลดต้นทุนปุ๋ยเคมีได้เฉลี่ยร้อยละ 25.2 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 73 ล้านบาท รวมทั้งสามารถจัดตั้ง ศดปช.เครือข่ายเพิ่มขึ้นตามความต้องการของพื้นที่ จึงทำให้มี ศดปช.เครือข่าย เกิดขึ้นรวมแล้วจำนวน 1,095 ศูนย์ และมีสมาชิกของ ศดปช. เครือข่ายรวมทั้งสิ้น 32,547 ราย

สำหรับการดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาปุ๋ยเคมีราคาสูงและไม่มีเสถียรภาพ ระหว่างปี 2565 – 2569 ในส่วนของการแก้ไขปัญหาระยะสั้นของกรมส่งเสริมการเกษตรนั้น ได้มอบแนวทางปฏิบัติลงสู่พื้นที่เพื่อให้สำนักงานเกษตรจังหวัด /อำเภอ ได้รับทราบและนำไปปฏิบัติ ได้แก่ การกำหนดนโยบายส่งเสริมเกษตรกรใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน การปรับปรุงความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้เหมาะสม และการใช้ปุ๋ยแบบผสมผสาน ผ่าน ศดปช. การผลักดัน ศดปช. เป็นต้นแบบ และสนับสนุน ศดปช. เป็นกลไก ในการขยายผลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาปุ๋ยเคมีราคาสูงและไม่สามารถเข้าถึงแหล่งจำหน่ายแม่ปุ๋ยได้

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรยังมีการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ปุ๋ยแบบผสมผสานทั้งปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยชีวภาพ โดยเน้นใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่มีในท้องถิ่นมาผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง และการไถกลบตอซัง เพื่อทำให้เกิด 4 ลด 4 เพิ่ม คือ ลดการเผา ลดโลกร้อน ลดการชะล้างดิน และลดต้นทุนด้านปุ๋ยเคมี ในขณะที่ทำให้มี 4 เพิ่ม คือ เพิ่มอินทรียวัตถุ เพิ่มธาตุอาหารพืช เพิ่มผลผลิต และเพิ่มมูลค่าวัสดุการเกษตรเหลือใช้ ในสภาวะที่ปุ๋ยเคมีปรับราคาสูงขึ้นและขาดแคลนจากความผันผวนที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ กรมส่งเสริมการเกษตรได้รณรงค์ให้เกษตรกรผลิตและใช้ปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์มาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม  เพื่อส่งเสริมการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในพื้นที่ 77 จังหวัด 882 อำเภอทั่วไป ปี 2565 มีเป้าหมายการผลิตปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด และการไถกลบตอซัง จำนวน 2,156,033.83 ตัน ผลการดำเนินงาน เดือนตุลาคม 2564 – มิถุนายน 2565 สามารถผลิตได้จำนวน 3,406,152.63 ตัน (ผลิตได้ร้อยละ 157.98 ของเป้าหมาย)

ดังนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรขอประชาสัมพันธ์และเชิญชวนให้เกษตรกร เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน หรือ ศดปช. ทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรสามารถจัดการดิน วิเคราะห์ดิน และใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ซึ่งเป็นการใช้ปุ๋ยอย่างถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสมกับปริมาณธาตุอาหารที่มีอยู่ในดินและความต้องการของพืช เป็นการใช้ปุ๋ยแม่นยำเฉพาะพื้นที่ ไม่มากไม่น้อยเกินไป และเกิดการลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง