ดัน ศจช. สู่การเป็นศูนย์บริการชีวภัณฑ์ชุมชน ติวเข้มเกษตรกรให้จัดการศัตรูพืชได้เอง

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนา ศจช. สู่การเป็นศูนย์บริการชีวภัณฑ์ชุมชน ที่สามารถแจกจ่าย และจำหน่ายชีวภัณฑ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมจัดสัมมนาใหญ่ไขลานเจ้าหน้าที่อารักขาพืช ให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำแก่เกษตรกร เน้นพัฒนาให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และชุมชน ให้สามารถจัดการศัตรูพืชได้ด้วยตนเอง

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรโดยกองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย ได้ขับเคลื่อนงานอารักขาพืชผ่านกลไกศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน หรือ ศจช. ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการป้องกันกำจัดศัตรูพืช และถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีด้านการจัดการศัตรูพืชในพื้นที่ ช่วยแก้ไขปัญหาของเกษตรกรและชุมชนจากภัยศัตรูพืชที่ทำให้เกิดปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

                                                              เข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง  

ส่วนการดำเนินงานเน้นพัฒนาให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และชุมชน ให้สามารถจัดการศัตรูพืชได้ด้วยตนเอง ภายใต้การขับเคลื่อนแบบมีส่วนร่วมของเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ชุมชน และหน่วยงานราชการ ทำให้สามารถบริหารจัดการศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายเข็มแข็ง กล่าวอีกว่า  ปัจจุบันกรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งเสริมให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มเพื่อจัดตั้ง ศจช. แล้วมากกว่า 1,764 ศูนย์ ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด อีกทั้งยังมีการจัดตั้งเพิ่มขึ้นทุกปี จึงเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญว่า ศจช. เป็นที่ยอมรับของชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ช่วยให้เกษตรกรและชุมชน มีความสามารถในการจัดการศัตรูพืชและพึ่งพาตนเองได้

ในฐานะศูนย์กลางการผลิตขยายศัตรูธรรมชาติ และการถ่ายทอดความรู้ โดยเฉพาะสารชีวภัณฑ์ ที่ ศจช. ส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกร และเกษตรกรทั่วไป ตลอดจนนักเรียนในชุมชนผลิตขยายใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ เชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ เชื้อราบิวเวอเรียพร้อมใช้ และเชื้อราเมตาไรเซียมพร้อมใช้ เป็นต้น

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมานั้น ศจช. สามารถผลิตขยายชีวภัณฑ์เพื่อแจกจ่ายให้สมาชิกนำไปใช้ภายในศูนย์เท่านั้น เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในเรื่องของกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ เกี่ยวกับการแจกจ่าย การจำหน่ายชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช จึงทำให้เกษตรกรไม่สามารถดำเนินการจำหน่าย เพื่อนำรายได้มาเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มได้ แต่ปัจจุบันมี ศจช. หลายแห่งที่มีศักยภาพ มีความพร้อม ในการผลิตขยายชีวภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมที่จะพัฒนาเพื่อนำไปสู่การจำหน่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ได้

อย่างไรก็ตาม กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย ได้ตระหนักถึงความต้องการของ ศจช. เป็นสำคัญ จึงได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ ศจช. ที่มีศักยภาพในการผลิตและให้บริการชีวภัณฑ์ในชุมชน สามารถแจกจ่าย และจำหน่ายชีวภัณฑ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น จึงได้จัดให้มีการสัมมนาเจ้าหน้าที่อารักขาพืช เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา ศจช. สู่การเป็นศูนย์บริการชีวภัณฑ์ชุมชน ภายใต้โครงการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรขึ้น

ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่อารักขาพืชสามารถทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำแก่เกษตรกร พร้อมดำเนินการพัฒนาและยกระดับ ศจช. สู่การเป็นศูนย์บริการชีวภัณฑ์ชุมชน รวมถึงให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อน ศจช. สู่การเป็นศูนย์บริการชีวภัณฑ์ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร โดยกำหนดจัดสัมมนาขึ้น รวม 2 ครั้ง ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565  มีเจ้าหน้าที่เข้าสัมมนา 885 คน และวันที่ 2 มิถุนายน 2565 มีเจ้าหน้าที่เข้าสัมมนา 1,000 คน ณ ห้องประชุม 4/2 ชั้น 4 อาคาร 1 กรมส่งเสริมการเกษตร และผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Meeting)

สำหรับผลที่จะได้รับ จากการจัดสัมมนาดังกล่าว จะทำให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 – 6 ,ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช, สำนักงานเกษตรจังหวัด, สำนักงานเกษตรอำเภอ รวมถึงเจ้าหน้าที่กองส่งเสริมการอารักขาพืชและจัดการดินปุ๋ย ทั้ง 1,885 คน ได้รับความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานชีวภัณฑ์ของกรมส่งเสริมการเกษตร การใช้ชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืชอย่างมีประสิทธิภาพ และการขึ้นทะเบียนชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช

รวมทั้งรับทราบถึงแนวทางการผลิต และการส่งเสริมการใช้ชีวภัณฑ์เพื่อแจกจ่าย หรือการจำหน่ายอย่างถูกต้องและปลอดภัย เกิดการขับเคลื่อน ศจช. สู่การเป็นศูนย์บริการชีวภัณฑ์ชุมชน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร และชุมชน