ขานรับ ดันไทยทะยานศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ กรมวิชาการเกษตรจับมือเอกชนยกระดับใบรับรอง E-Phyto

  •  
  •  
  •  
  •  


กรมวิชาการเกษตร  ขานรับนโยบายรัฐบาล ดันไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ จับมือภาคเอกชนร่วมตรวจรับรองสุขภาพเมล็ดพันธุ์ส่งออกปลอดศัตรูพืช ล่าสุดกำลังตรวจรับรองห้องปฏิบัติการภาคเอกชน 4 แห่ง ถ้าผ่านสามารถให้บริการแก่ผู้ส่งออกได้ มิ.ย.65 นี้ ชี้จะช่วยเพิ่มช่องทางรับบริการ ลดระยะเวลา  ทันต่อสถานการณ์  พร้อมเดินหน้ายกระดับใบรับรองสุขอนามัยพืชไทยเข้าระบบดิจิทัล ก่อนร่วมพันธมิตร เตรียมจัดงาน “Asian Seed Congress 2022” ระหว่างวันที่ 14–18 พฤศจิกายน 2565 นี้

       นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์  อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำโครงการรับรองห้องปฏิบัติการตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนด้านการตรวจสอบศัตรูพืชของเมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก โดยให้ห้องปฏิบัติการภาคเอกชนที่ผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรสามารถดำเนินการตรวจศัตรูพืชเพื่อนำผลการตรวจมาใช้ประกอบการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชได้   ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ผู้ส่งออกภายใต้มาตรฐานและข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตร  และช่วยลดระยะเวลาการตรวจสุขภาพของเมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก

     ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างทันสถานการณ์  ซึ่งส่งผลให้สามารถบริหารจัดการการส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งเสริมนโยบายการเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ (Seed Hub) ของประเทศไทย  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรับรองห้องปฏิบัติการภาคเอกชนจำนวน 4 แห่ง  คาดว่าเมื่อผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรแล้วห้องปฏิบัติการทั้ง 4  แห่ง จะสามารถให้บริการแก่ผู้ส่งออกได้ประมาณเดือนมิถุนายน  2565

นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรยังได้ออกแบบและพัฒนาการขอใบรับรองสุขอนามัยพืชแบบอิเล็กทรอนิกส์  (E-Phyto) ซึ่งช่วยยกระดับใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) ของไทยเข้าสู่ระบบดิจิทัล  เป็นที่ยอมรับในเวทีการค้าเมล็ดพันธุ์และการกำกับดูแลการเคลื่อนย้ายเมล็ดพันธุ์ระหว่างประเทศ  และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบศัตรูพืชของไทย ที่มีความชัดเจน รวดเร็ว ทันสถานการณ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันทางการค้าสูง  ช่วยลดขั้นตอน ภาระงานและการผ่านพิธีการศุลกากรของสินค้าไทยทั้งที่ต้นทางและประเทศปลายทาง ส่งผลให้การค้าเมล็ดพันธุ์ของไทยมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร   กล่าวอีกว่า เพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกเมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยภายใต้นโยบายศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์  กรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับ สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย  สมาคมเมล็ดพันธุ์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก  และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงาน Asian Seed Congress 2022 วันที่ 14–18 พฤศจิกายน 2565 เพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงของไทย เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ  และประชาสัมพันธ์เผยแพร่ภาพลักษณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าเมล็ดพันธุ์ระดับโลก  

     ภายในงานมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การแสดงผลงานของประเทศไทยในการส่งเสริมการผลิตและส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงของไทย  โดยกรมวิชาการเกษตร และสวทช. การแสดงสินค้าเมล็ดพันธุ์ของภาคเอกชนไทยและต่างประเทศ  และการเจรจาการค้าเมล็ดพันธุ์ระหว่างคู่ค้า  ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ทั่วโลกมากกกว่า 500 ราย