“อลงกรณ์” ลงใต้ไล่บี้ให้เร่งรัดการออกใบรับรอง GAP พื้นที่อำเภอนบพิตำ ให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด ตั้งเป้าพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นฮับมังคุด ของภาคใต้ตอนกลาง แนะการเพิ่มช่องทางการตลาด โดยการทำตลาดขายผ่านออนไลน์ล่วงหน้า ผ่านระบบสหกรณ์ ดึงบริษัทไปรษณีย์ไทยร่วมขับเคลื่อนด้วย ย้ำต้องทำงานล่วงหน้าเชิงรุก เพิ่มช่องตลาดออนไลน์ขายล่วงหน้า
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างลงพื้นที่ เพื่อติดตามงานนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ แปลงใหญ่มังคุด ต.นาเรียง อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 ว่า แปลงใหญ่มังคุด ต.นาเรียง จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2562 มีสมาชิก จำนวน 42 ราย มีพื้นที่ 343 ไร่ ปริมาณผลผลิตมังคุด เมื่อปี 2563 ประมาณ 103 ตัน ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ ได้แก่ ปัญหาราคาผลผลิตมังคุดตกต่ำ การขาดเงินทุน อุปกรณ์ และโรงเรือนแปรรูปผลผลิต การขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวและคัดเกรดผลผลิตมังคุด
ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ ได้ให้แนวการการขับเคลื่อนและการสนับสนุนแปลงใหญ่ตามนโยบายการส่งเสริมการผลิตแปลงใหญ่ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยพัฒนายกระดับแปลงใหญ่ให้เป็น Start Up หรือ SMEs เกษตร การจัดอบรมผู้นำและสมาชิกแปลงใหญ่ให้เป็นผู้ประกอบการ เพื่อทำการเกษตรสู่การเป็นเกษตรมูลค่าสูง การรักษาคุณภาพมังคุดและปรับระบบการขนส่งผ่านระบบ Cold Chain การศึกษาวิจัยและพัฒนามังคุด โดยศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (AIC) ด้านการแปรรูป การสกัดสารสำคัญจากมังคุด เพื่อมุ่งสู่การทำเกษตรมูลค่าสูง
จากนั้น นายอลงกรณ์ ได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นประธานการประชุมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านภาคการเกษตรทั้งระบบของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี นายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ และร่วมประชุม ซึ่งที่ประชุมได้รายงานสรุปแนวทางการพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช มีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้ 1) การบริหารจัดการเกษตรและอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานครบวงจรและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 2) การพัฒนาการท่องเที่ยวบนพื้นฐานธรรมะ ธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรม 3) การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 4) การพัฒนาคน ชุมชน สังคมให้น่าอยู่ และเข้มแข็งตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 5) การรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย และ 6) การส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์สินค้าเกษตรที่สำคัญ ปี 2565 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ผลผลิตผลไม้ 4 ชนิด (ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง) ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง และการพิจารณาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านภาคการเกษตรทั้งระบบของจังหวัดนครศรีธรรมราช (การบริหารจัดการผลไม้ทั้งระบบ) เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขปัญหาผลผลิตที่อาจจะเกิดขึ้นและมีผลกระทบต่อเกษตรกร ซึ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ปลูกไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ทุเรียน มีพื้นที่ปลูก 89,265 ไร่ ผลผลิต (คาดคะเนสถานการณ์ ปี 2565 ) จำนวน 69,182 ตัน มังคุด พื้นที่ปลูก 96,620 ไร่ ผลผลิต จำนวน 66,919 ตัน เงาะ พื้นที่ปลูก 12,845 ไร่ ผลผลิต จำนวน 8,870 ตัน และลองกอง พื้นที่ปลูก 14,566 ไร่ ผลผลิต จำนวน 4,350 ตัน
อย่างไรก็ตาม มีการดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้านการพัฒนาคุณภาพผลผลิต การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการพัฒนาคุณภาพผลไม้ทั้งในและนอกฤดู ส่งเสริมการผลิตตามระบบมาตรฐาน GAP ในการรับรองมาตรฐาน GAP และมีแผนการดำเนินงาน ปี 2565 จำนวน 1,458 แปลง ได้แก่ ทุเรียน 605 แปลง มังคุด 547แปลง มะพร้าว 112 แปลง ส้มโอ 92 แปลง โกโก้ 40 แปลง สละ 34 แปลง เงาะ 20 แปลง ลองกอง 4 แปลงฝรั่ง 4 แปลง จำนวนแปลงสะสมทั้งหมด ปี 2547-2565 จำนวน 12,576 แปลงมีเกษตรกรร่วมโครงการ 11,125 ราย ในพื้นที่57,277.3968 ไร่
ในโอกาสนี้นายอลงกรณ์ ได้เน้นย้ำการเร่งรัดการออกใบรับรอง GAP พื้นที่อำเภอนบพิตำ ให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด การพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นฮับมังคุด (ภาคใต้ตอนกลาง) การเพิ่มช่องทางการตลาด โดยการทำตลาดออนไลน์ การขายออนไลน์ล่วงหน้า การสั่งซื้อล่วงหน้า การขายผ่านระบบสหกรณ์ หรือบริษัทไปรษณีย์ไทย พร้อมกำชับารทำงานล่วงหน้าเชิงรุก ตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเป็นแนวทางการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ฤดูกาลผลิตต่อไป