พิษภัยแล้ง กระอักถ้วนหน้า ผลผลิตเสียหายหนัก-สินค้าเกษตรจ่อขึ้นราคา
ส่วนเนื้อหมูคาดว่าราคาจะสูงขึ้นเช่นกัน จากอากาศร้อนทำให้หมูโตช้า และการเกิดโรคอหิวาต์แอฟริการะบาดในหมูในประเทศจีน เวียดนาม และลาว จึงทำให้ราคาหมูมีชีวิตในจีนปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 200 บาท เวียดนาม กก.ละ 120 บาท ขณะที่ไทยขณะนี้ยังอยู่ที่ไม่เกิน กก.ละ 75 บาท แต่กรมได้หารือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้ว่า หากราคาเกินกว่า กก.ละ 80 บาท อาจมีมาตรการจำกัดการส่งออก เพื่อให้มีเนื้อหมูบริโภคในประเทศอย่างเพียงพอ และราคาไม่สูงมากจนเกินไป
“ราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ถ้ามองในแง่เกษตรกรจะมีผลดีกับเขามาก เพราะเป็นกลุ่มที่เดือดร้อนมาโดยตลอด เพราะขายผลผลิตได้ราคาไม่คุ้มต้นทุน แต่ในแง่ของผู้บริโภค อาจได้รับผลกระทบในช่วงสั้นๆ ถ้าหน้าแล้งผ่านพ้นไป ราคาสินค้าเกษตรจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ถ้าราคาสินค้าแพงจากภาวะภัยแล้ง จะใช้ กลไกที่กรมมีอยู่ในการแก้ปัญหา เช่น ร้านธงฟ้า ที่มีอยู่กว่า 102,000 ร้านแห่งทั่วประเทศ โดยจะเชื่อมโยงนำผลผลิตจากแหล่งผลิตที่ไม่ได้รับความเสียหาย กระจายไปยังร้านธงฟ้าต่างๆ เพื่อให้ไปถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึงในราคาที่เป็นธรรม”
นายวิชัย กล่าวต่อถึงความกังวลของสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจกระทบต่อน้ำดื่ม จนอาจทำให้น้ำดื่มบรรจุขวดปรับขึ้นราคาขายว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำดื่มบรรจุขวดยังอยู่ในภาวะปกติ โดยยังขายอยู่ที่ขวดละ 5-10 บาท และเชื่อว่าภัยแล้งจะไม่รุนแรงจนทำให้ขาดแคลนน้ำมาผลิตน้ำดื่ม และดันให้ราคาต้องขยับขึ้น เพราะขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างพยายามเร่งแก้ปัญหา โดยเฉพาะการขุดบ่อน้ำบาดาล การหาแหล่งน้ำใหม่ๆ ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ และไม่ทำให้ราคาน้ำดื่มต้องปรับขึ้นแน่นอน
ส่วนราคาปาล์มน้ำมัน ที่ขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยผลปาล์มสด กก.ละ 6-7 บาท จากปี 62 ที่ กก.ละ 2.50-3 บาท และน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) กก.ละกว่า 35 บาท จาก กก.ละ 16-18 บาทนั้น ได้ขอความร่วมมือผู้ค้าให้ปรับราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้น โดยราคาน้ำมันปาล์มขวดเพื่อการบริโภคขณะนี้ควรจะอยู่ที่ขวดละ 42-43 บาท เพื่อให้อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของไทยทั้งระบบอยู่ได้ โดยเฉพาะชาวสวนปาล์มที่เดือดร้อนจากการขายผลผลิตราคาต่ำมาหลายปีแล้ว ดังนั้น ปีนี้เมื่อราคาผลปาล์มสูงขึ้น ก็ควรให้โอกาสเกษตรกรบ้าง ซึ่งเชื่อว่าผู้บริโภคจะเข้าใจ และจะเป็นเพียงสถานการณ์ระยะสั้นเท่านั้น เมื่อราคาผลปาล์มสดลดลง ราคาน้ำมันขวดก็จะลดลงตาม อย่างไร ก็ตาม ผู้บริโภคอาจหันมาบริโภคน้ำมันพืชอื่นทดแทนได้ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันหมู เป็นต้น ที่ราคายังไม่ปรับขึ้น.
ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ