นายกฤษณพงษ์ ศรีพงษ์พันธุ์กุล รองอธิบดีกรมการข้าว เผยว่า การผลิตพันธุ์ข้าวคุณภาพให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของชาวนา กรมการข้าวจะมีกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์เป็นผู้ผลิตหลัก
แต่ปัจจุบันประสบปัญหาผลผลิตที่ได้มักมีเมล็ดพันธุ์ปนบ่อยครั้ง ทั้งนี้ เกิดจากกลุ่มเกษตรกรต้องจ้างรถเกี่ยวข้าวของเอกชนที่รับจ้างเกี่ยวข้าวไปทั่ว ทำให้พันธุ์ข้าวชนิดอื่นติดมากับรถเกี่ยว ปะปนผสมอยู่ในเมล็ดข้าวที่ส่งมายังศูนย์เมล็ดพันธุ์ของกรมการข้าวด้วย
“สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น มาจากกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย ไม่สามารถที่จะจัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพประจำกลุ่มได้ เพื่อแก้ปัญหานี้ กรมการข้าวจึงได้จัดสรรงบประมาณจากโครงการไทยนิยมยั่งยืน จัดซื้อเครื่องเกี่ยวข้าว เครื่องคัดแยกสิ่งเจือปน เครื่องวัดความชื้น เครื่องบรรจุเมล็ดพันธุ์ จักรเย็บกระสอบ ให้กับกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดในระดับเขต เริ่มตั้งแต่ปี 2558-2560 รวมทั้ง 18 กลุ่ม เพื่อให้มีขีดความสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดอย่างครบวงจร”
นายกฤษณพงษ์ เผยอีกว่า ขณะนี้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือทุกอย่าง อยู่ระหว่างการทยอยส่งมอบไปยังกลุ่มต่างๆ และเมื่อรวมกับโครงการธนาคารเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนที่เคยทำมาแล้ว 12 กลุ่ม รวมแล้วกรมการข้าวจะมีกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพซึ่งมีเครื่องมือและอุปกรณ์ไว้ใช้งานเพิ่มเป็น 30 กลุ่ม ส่งผลแต่ละกลุ่มมีขีดความสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว
“สำหรับการบริหารจัดการหลังได้รับเครื่องมือไปแล้ว ซึ่งกรมการข้าวจัดหามาให้ ไม่ใช่เป็นการให้เปล่า แต่เป็นให้ยืมไปใช้ ดังนั้น กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลการยืม และต้องมีช่างประจำกลุ่ม มาดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงบริหารควบคุม กำกับการใช้งาน รวมทั้งคิดค่าจ้าง ค่าบริการ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมการข้าวมาเป็นพี่เลี้ยง ให้คำแนะนำการใช้อุปกรณ์ต่างๆ และเมื่อกลุ่มไหนเข้มแข็ง กิจการเติบโตมีเงินทุนเพียงพอ ต้องซื้อหาเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ใช้เองส่วนชุดเครื่องมืออุปกรณ์ที่กรมการข้าวให้ยืมใช้จะถูกส่งต่อให้กลุ่มอื่นต่อไป” รองอธิบดีกรมการข้าวกล่าว
ที่มา : ไทยรัฐ : อ่านเพิ่มเติม : https://www.thairath.co.th/content/1389308