ปลูกแก้วมังกรเสริมสร้างรายได้

  •  
  •  
  •  
  •  


คุณนัน บุญทูล เจ้าของสวน “สวนแก้วมังกรสมคิด” บ้านยางตะพาย ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เล่าว่า ตนเองและครอบ ครัว เริ่มมาปลูกแก้วมังกร เนื่องจากความชอบก่อน มีเพื่อนบ้านปลูกอยู่เห็นว่าต้นแก้วมังกรออกดอกสวย จึงศึกษาว่าถ้าตนเองจะปลูกแก้วมังกรนั้นยากหรือไม่ ซึ่งพบว่าแก้วมังกรเป็นพืชที่ปลูกง่าย ออกดอกง่าย ติดผลดก ยิ่งปลูกเชิงการค้าแล้วแก้วมังกรเป็นพืชที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงมาก ปลูกเพียง 1 ปี ก็เริ่มมีผลให้เก็บได้แล้ว ประกอบกับครอบครัวมีอาชีพทำนาชอบทำการเกษตร อีกอย่างมองว่า จ.พิจิตร ไม่มีคนปลูกแก้วมังกรแบบเป็นสวน ถ้าปลูกแล้วก็คิดว่าจะขายแค่ในจังหวัดก็คงจะเพียงพอ จึงตัดสินใจปลูกแก้วมังกร ประมาณ 8 ไร่ ปลูกได้ราว 900 หลัก ตอนนี้ต้นอายุได้ 2 ปีเศษ ซึ่งตอนนี้สร้างรายได้เป็นอย่างดี ช่วยเสริมรายได้จากการทำนาที่พอมีเวลาดูแลในช่วงที่รอเกี่ยวข้าว

     ที่สวนปลูกแก้วมังกรอยู่ 3 สายพันธุ์   หลัก ๆ คือหนึ่ง แก้วมังกรพันธุ์เวียดนาม ซึ่งมีลักษณะผลใหญ่ เนื้อขาวครีม เปลือกแดงอมชมพู รสหวานจัด กลีบใหญ่และห่าง เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกมากที่สุดในบ้านเรา สอง แก้วมังกรพันธุ์ไทย ซึ่งมีลักษณะผลเล็กกว่าพันธุ์เวียดนาม, เนื้อขาวครีม, เปลือกแดงอมชมพู, รสหวานอมเปรี้ยว, กลีบเล็กและถี่กว่าพันธุ์เวียดนาม และสาม แก้วมังกรพันธุ์ไต้หวัน ซึ่งมีลักษณะเนื้อแดง, เปลือกแดง และมีขนาดผลเท่าแก้วมังกรพันธุ์ไทย โดยเลือกปลูกแก้วมังกรสายพันธุ์ “เวียดนาม” ทั้งหมด เนื่องจากเป็นที่นิยมในบ้านเรามากที่สุด มีรสชาติหวาน ผลใหญ่ แต่ก็ปลูกพันธุ์เนื้อแดงบ้างเล็กน้อยเผื่อลูกค้าบาง  คนชอบให้เป็นทางเลือก

     การขายแก้วมังกรของที่สวน เน้นขายในจังหวัดเท่านั้นเน้นการขายเอง เช่น วางขายตามตลาดนัด ขายให้กับลูกค้าที่สั่งจองเอาไว้ ส่วนหนึ่งก็ขายออนไลน์ ราคาขายก็จะตามขนาดไซซ์ผล วิธีการเก็บผลผลิต ต้องให้ผลแก้วมังกรมีสีแดงทั่วทั้งผล เมื่อผลของแก้วมังกรสุกเต็มที่แล้ว ให้ใช้กรรไกรตัดกิ่ง ตัดตรงผลของแก้วมังกรออกมาจากกิ่ง โดยระวังไม่ให้กิ่งเสียหาย ส่วนราคาทางสวนก็อ้างอิงราคาตามท้องตลาด อย่างปีนี้ก็ราคาเฉลี่ย 20-35 บาท ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี       โดยข้อดีของการปลูกเองขายเองโดยตรง ตัวเกษตรกรก็จะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย การ    เก็บผลแก้วมังกรก็ไม่ต้องรีบมาก จะเน้นเก็บ        ผลที่แก่ 100 เปอร์เซ็นต์ เท่า นั้น ซึ่งจะได้แก้วมังกรรส ชาติที่หวานจัด ทำให้ลูกค้าติด ใจแก้วมังกรจากที่สวนมาก ซึ่งถ้าเก็บผลแก้วมังกรที่ไม่แก่จัดจะทำให้รสชาติแก้วมังกรจะติดรสเปรี้ยว ซึ่งจะทำให้ลูกค้าที่ทานอาจจะไม่ประทับใจอันนี้เป็นข้อสำคัญที่ทางสวนจะเน้นมาก ตัวอย่างลูกค้าบางคนที่    ไม่ชอบแก้วมังกรเลยพอได้ชิมแก้วมังกรที่เก็บแก่จัดของสวนเรากลับกลายเป็นลูกค้าประจำสั่งครั้งละ 10 กิโลกรัมแช่ตู้เย็นเก็บไว้ทานเลยก็มี แล้วการขายของที่สวนก็จะเน้นเก็บขายแบบวันต่อวันเก็บผลให้พอแค่ขายหมดพอ อย่างเก็บขายตลาดนัดก็ครั้งละ 100-200 กิโลกรัม แล้วตอนนี้ที่สวนก็ได้รับรองมาตรฐาน GAP แล้ว เนื่องจากอนาคตอาจจะส่งผลผลิตส่วนหนึ่งเข้าห้างสรรพสินค้า และยังสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยว่าแก้วมังกรของที่สวนปลอดภัยจากสารเคมี.

 

 

 ที่มา : เดลินิวส์…โดย..   ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ  :. อ่านเพิ่มเติมที่ : https://www.dailynews.co.th/agriculture/655584