“มะม่วงตาเตะหลาน” กับที่มาชื่อดิบสุกอร่อย

  •  
  •  
  •  
  •  

มะม่วงชนิดนี้ เป็นพันธุ์ไทยแท้ๆ นิยมปลูกกันเฉพาะถิ่นแถบ จ.อ่างทอง มาช้านานแล้ว โดยมีตำนานเล่ากันมาว่า มีคุณตาท่านหนึ่งไปทำบุญที่วัดข้างบ้านเป็นประจำมีอยู่วันหนึ่ง พระหลวงตาฉันเพลเสร็จได้นำเอาผลมะม่วงสุกปอกเปลือกแล้วเฉือนเอาเฉพาะเนื้อสุกให้คุณตารับประทาน ปรากฏว่ารสชาติหวานอร่อยมาก คุณตาจึงสอบถามว่าเป็นมะม่วงพันธุ์อะไร แต่พระหลวงตาจำชื่อไม่ได้และมอบผลสุกของมะม่วงดังกล่าวให้คุณตาไป 1 ผล เอาไปซ่อนไว้ในตู้กับข้าวก่อนออกไปนั่งคุยกับเพื่อนๆใกล้บ้าน พอกลับเข้าบ้านจะเอามะม่วงที่ซ่อนไว้ออกมารับประทาน ปรากฏว่ามะม่วงได้หายไปเพราะถูกหลานชายขโมยไปกินคุณตาโมโหมากเลยไล่เตะหลานวิ่งหนีรอบบ้าน จึงถูกตั้งชื่อมะม่วงดังกล่าวว่า “มะม่วงตาเตะหลาน” และเรียกกันเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน

มะม่วงตาเตะหลาน มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นมะม่วงทั่วไปเกือบทุกอย่าง อยู่ในวงศ์ ANACARDIACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 10-15 เมตร ขึ้นไป แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มทรงกลมหนาแน่น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับที่บริเวณปลายยอด ใบเป็นรูปใบหอก ปลายแหลมโคนมน สีเขียวสดให้ร่มเงาดี ดอก ออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอด ดอกย่อยเป็นสีขาวหรือสีขาวนวล ดอกมีกลิ่นหอมเย็น “ผล” รูปกลมรีและอวบอ้วน ผลอ่อนก่อนแก่เป็นสีเขียวและมีนวล ผลแก่จัดเกือบสุกรสชาติหวานมันปนเปรี้ยวนิดๆ คล้ายรสชาติของมะม่วงเขียวเสวย ผลสุกผิวผลเป็นสีเหลือง เนื้อสุกแน่นเหนียวรสชาติหวานหอมรับประทานอร่อยทั้งผลดิบและสุกมีดอกและติดผลดกโดยธรรมชาติปีละครั้งตามฤดูกาล ขยายพันธุ์ทั่วไปด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง ติดตา และเสียบยอดเมื่อ 4-5 ปีที่ ผ่านมา เคยมีต้นขายทั่วไปที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ ปัจจุบันไม่พบเห็นอีกแล้ว ใครต้องการต้นพันธุ์ไปปลูกต้องเดินเสาะหากันเอาเอง หรือลองติดต่อ “คุณเล็ก” ตรงกันข้ามโครงการ 17 ดู อาจมีขายอยู่ครับ.

 ที่มา : ไทยรัฐ : อ่านเพิ่มเติม : https://www.thairath.co.th/content/1332965