‘สมคิด’ดันอาหารวาระแห่งชาติ สั่งอัดเงินปั้นสตาร์ตอัพ-ไทยครัวโลก

  •  
  •  
  •  
  •  

“สมคิด” ดันอาหารวาระแห่งชาติ สั่งพาณิชย์ตั้งทีมดันส่งออก-อัดงบฯปั้นสตาร์ตอัพ ด้านสมาคมทูน่าลุ้นไทยหลุดใบเหลืองหลังอังกฤษชมไทยแก้ IUU ดันส่งออกทูน่าโต 15% 

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวปาฐกถาพิเศษ “กำหนดทิศธุรกิจอาหารไทยในยุค Digital Economy” ในงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX–World of Food Asia 2018 ว่า รัฐบาลต้องการผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารเป็นวาระแห่งชาติ มอบให้กระทรวงพาณิชย์จัดตั้งทีมอาหารไทย เพื่อผลักดันการส่งออกตามแนวทางครัวไทยสู่ครัวโลก พร้อมทั้งให้งบประมาณสนับสนุนกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้า และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เร่งสร้างสตาร์ตอัพด้านอาหารไทยกระจายไปทั่วโลก

“อุตสาหกรรมอาหารเป็นอุตสาหกรรมสำคัญใช้วัตถุดิบในประเทศกว่า 85% ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างรายได้จากการส่งออกปีละ 1 ล้านล้านบาท ทำให้มีการจ้างงานภาคเกษตร 20-30 ล้านคน ปัจจุบันอุตสาหกรรมอาหารเป็นการบริโภคภายใน 70% ส่งออก 30% น้อยมาก มีส่วนแบ่งตลาดอาหารโลกเพียง 2.3% ยังสามารถขยายได้ หากสนับสนุนสำเร็จจะช่วยการส่งออกภาพรวมโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ 8% และช่วยให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็งด้วย”

นายสมคิด กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันการผลิตอาหารให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย สร้างความเชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมการลงทุนในเทคโนโลยี และดิจิทัล เชื่อมโยงอุตสาหกรรมนี้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน ตลอดจนการป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมาย

งาน THAIFEX 2018 จัดขึ้นตั้งแต่ 29 พ.ค.-2 มิ.ย. 2561 ณ เมืองทองธานี มีผู้ร่วมจัดงาน 2,537 ราย จาก 41 ประเทศ คาดการณ์จะมียอดขาย 11,500 ล้านบาท

นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย เปิดเผยภายหลังเวทีการประชุม การค้าทูน่าโลก ครั้งที่ 15 ว่า การส่งออกสินค้าประมงปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 98,000 ล้านบาท ขยายตัว 10-15% จากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้นทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดใหม่ที่ไม่ใช่สหภาพยุโรป อย่างกลุ่มละตินอเมริกา อย่างไรก็ตาม ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามาดูแลภาวะอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพในระดับ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของการส่งออกสินค้ากลุ่มเกษตรและอาหาร ส่วนราคาน้ำมันผันผวนยังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกเทียบเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยน

ส่วนการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) สมาคมขอให้สมาชิกปฏิบัติตามหลักสากล ไม่รับซื้อสินค้าประมงผิด IUU และรัฐบาลมุ่งมั่นแก้ปัญหาด้วยดีตลอด 3 ปี จนทุกประเทศชื่นชมไทย โดยเฉพาะอังกฤษ ซึ่งไทยควรจะถูกยกเลิกใบเหลืองได้แล้ว ต้องถามกลับไปประเทศที่ประเมินทำไมเขายังคงใบเหลืองอยู่

เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาแรงงาน ซึ่งสมาคมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ มาแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แต่ยังต้องจับตาดูการประเมินการจัดอันดับแรงงานของสหรัฐ (TIP Report) ปีนี้ต่อไป

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ไทยเป็นผู้นำในการส่งออกทูน่า โดยในปี 2560 ส่งออกผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าแปรรูป 485,461 ตัน มูลค่า 2,057 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าทูน่า 687,470 ตัน มูลค่า 1,307 ล้านเหรียญสหรัฐ

“ไทยยึดความยั่งยืนของทรัพยากรปลาทูน่า ขจัดปัญหา IUU ล่าสุดได้ร่วมมือกับหน่วยงานอนุรักษ์ปลาโอดำ เป็นปลาทูน่าราคาแพง และอนาคตจะขยายผลไปที่ปูม้า โดยทำความเข้าใจกับชาวประมงอวนล้อม ส่วนอวนลากคู่และเดี่ยวซึ่งจับปลาไม่เหมือนกัน แม้มีความเห็นต่างกัน แต่เรามุ่งมั่นเพื่อความยั่งยืนให้ไทยปลอดปัญหานี้ ฟรีไอยูยู”

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ  : อ่านเพิ่มเติม : https://www.prachachat.net/economy/news-166549