เปิดตัวแฟรนไชส์น้องใหม่ อาศัยประสบการณ์ในวงการกาแฟ ปรับสู่เมนูโกโก้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเปิดกว้างขึ้น ตั้งเป้าขยาย 600-700 สาขาภายในสิ้นปี
คุณชนินทร์ ชินวงศ์ ผู้บริหารแฟรนไชส์ Choco Toss (ช็อกโก ทอส) กล่าวว่า จากที่ทำธุรกิจอยู่ในตลาดร้านกาแฟมานาน ในนามบริษัท ThreeE คอฟฟี่ ซึ่งทำเกี่ยวกับกาแฟครบรูปแบบ จึงต้องการต่อยอดธุรกิจให้มีความหลากหลาย โดยแตกไลน์มาเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่เน้นเครื่องดื่มโกโก้ ซึ่งแปลกใหม่ แตกต่างจากท้องตลาด และยังไม่มีใครทำ มองเห็นถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างเพราะบริโภคได้ทุกเพศทุกวัย
“จากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการทำร้านกาแฟ ทำให้รู้ว่าเวลาบ่าย 3 โมงเป็นต้นไปกาแฟจะเริ่มขายได้น้อย แต่โกโก้สามารถขายได้ทั้งวันจนถึงตอนเย็น อีกทั้งเด็กก็ยังดื่มได้ เป็นความแปลกใหม่ โดยเราชูจุดเด่นในเมนูโกโก้” คุณชนินทร์ กล่าว
โดดเด่นด้วยวัตถุดิบ
โดย ChocoToss เป็นแฟรนไชส์ร้านกาแฟที่ขายเครื่องดื่มทุกประเภทเหมือนร้านทั่วไป แต่มีจุดเด่นคือชูเมนูเครื่องดื่มโกโก้เป็นหลัก ซึ่งใช้วัตถุดิบเป็นโกโก้สดที่เป็นผลผลิตจากในประเทศ นำมาผลสดมาผ่านกระบวนการหมักและคั่วเอง ซึ่งแตกต่างจากเจ้าอื่นที่นำเข้าเป็นผงมาจากต่างประเทศ ทำให้เครื่องดื่มโกโก้ของ ChocoToss มีความสดใหม่ หอมหวาน มีรสชาติที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
และจุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบหลัก ซึ่งก็คือผงโกโก้ คุณชนินทร์ระบุว่า เป็นการนำผลผลิตลูกโกโก้สดที่สามารถปลูกได้ในเมืองไทยจากหลากหลายพื้นที่ เช่น ระยอง ชุมพร จันทบุรี หรือจังหวัดทางภาคอีสานในพื้นที่ซึ่งไม่สูงมากนัก พัฒนาสายพันธุ์โดยโครงการหลวงมานานกว่า 30 ปี โดยนำผลสดมาแปรรูป เริ่มจากการหมัก 7 วัน แล้วนำมาตากอีก 7 วัน ให้แห้ง แล้วนำมาคั่วในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าการคั่วกาแฟ จากนั้นจึงนำมาบด ซึ่งเมื่อบดแล้วจะเรียกว่า “Cocoa Nib” นำไปเข้าเครื่องช็อกโกแลต Refiner ผสมน้ำตาลทราย 20% กลายเป็นผงโกโก้สดพร้อมชง ปราศจากสารเคมีเจือปน
ชูจุดแข็งประสบการณ์ในวงการธุรกิจ
คุณชนินทร์ กล่าวอีกว่า ชื่อThreeE คอฟฟี่ อยู่ในตลาดธุรกิจกาแฟมานาน เพียงแต่ยังไม่ได้บุกเข้ามาในตลาดแฟรนไชส์ ซึ่งชูจุดแข็งในส่วนของประสบการณ์ในวงการธุรกิจ ทั้งอุปกรณ์และวัตถุดิบต่างๆ โดยเงื่อนไขการลงทุนนั้น ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ 129,000 บาท ซึ่งสามารถผ่อนจ่ายรายเดือนได้
“เรามีการบริการในเรื่องของวัตถุดิบทั้งหมด มีการฝึกอบรมทุกๆ 2 เดือน จัดเมนูและคิดสูตรเครื่องดื่มให้ทั้งหมด มีการประเมินทำเลให้ มีทีมการตลาดคอยดูแลในเรื่องยอดขาย”
ตั้งเป้าใหญ่ 600-700 สาขาภายในสิ้นปี
สำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดของธุรกิจนี้ คุณชนินทร์ กล่าวด้วยความมั่นใจว่า แม้จะมีการแข่งขันสูงแต่ก็ไม่กลัว เนื่องจากโปรดักต์ทุกอย่างมีการคิดสร้างสรรค์มาเป็นอย่างดี และมีความมั่นใจจากประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงกาแฟมานานหลายปี จะทำให้สามารถต่อสู้กับคู่แข่งได้
“มองว่าอีกไม่นานน่าจะมีสินค้าในลักษณะเช่นนี้ คือแฟรนไชส์เครื่องดื่มที่เน้นโกโก้ออกมาแข่งขัน ซึ่งทาง ChocoToss ก็จะพัฒนาตัวเองให้เหนือกว่าคู่แข่ง โดยภายในปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีสาขาให้ได้ประมาณ 600-700 สาขา”
สุดท้าย ผู้บริหารแฟรนไชส์ ChocoToss ได้ฝากถึงผู้ประกอบการ โดยให้คำแนะนำว่า
“เอสเอ็มอีที่อยากประสบความสำเร็จในยุคนี้ต้องมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน สร้างสรรค์สินค้าแปลกใหม่ที่โดดเด่นและมีความน่าสนใจ ต้องคิดต่าง หากทำเหมือนคนอื่นเราก็ต้องไปต่อแถว แต่หากเราไม่เหมือนใครก็จะยืนนำหน้าคู่แข่งคนอื่นๆ ได้” คุณชนินทร์กล่าวทิ้งท้าย