“สนธิรัตน์” ลงพื้นที่ภาคใต้ ให้ความรู้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่ จ.กระบี่ เกี่ยวกับระบบ Block Chain เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการบริหารจัดการซื้อขายปาล์มทั้งระบบ เพื่อช่วยเหลือเกษตรขายผลปาล์มในราคาที่เป็นธรรม คิกออฟวันที่ 8 มิ.ย. นี้ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ “พลังงานบริสุทธิ์-น้ำมันพืชปทุม-นิวไบโอดีเชล” ทดสอบซื้อขายปาล์มทั้งระบบผ่าน Block Chain กรมธุรกิจพลังงานเผยขั้นตอนเข้าร่วมปฏิรูปวงจรปาล์มครั้งใหญ่เพียงโหลดแอพฯ ไว้บนมือถือก็เข้าสู่โหมดขายปาล์มไม่ถูกกดราคาอีกต่อไป
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว่ว่าได้นำณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่จังหวัดกระบี่ เพื่อพบปะกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่กว่า 100 คน และร่วมเสวนา “Block Chain กับทิศทางใหม่ของชาวสวนปาล์ม” ที่ชุมนุมสหกรณ์กลุ่มผู้ผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน ต.คลองยา อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
สำหรับ การลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็รจุดเริ่มต้นในการแนะนำระบบ Block Chain ให้กับเกษตรชาวสวนปาล์มได้เข้าใจก่อนจะเปิดทดลองใช้ในสัปดาห์หน้า เพื่อจะได้รู้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้งานจริง เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ก่อนนำไปขยายผลใช้กับโรงงาน B100 ทั้งหมดทั่วประเทศภายในปีนี้
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ระบบ Block Chain เป็นแอพลิเคชั่นอีกอย่างหนึ่งที่จะนำมาใช้ในดูแลการซื้อขายปาล์มน้ำมันทั้งระบบ เพื่อให้เกษตรกรได้รับราคาผลผลิตที่เป็นธรรม ราคาสอดคล้องกันทั้งระบบ Value Chain โดยรายได้ตกสู่เกษตรกรอย่างแท้จริง ซึ่ง Block Chain นี้จะนำมาใช้บริหารซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพื่อมาผลิตไบโอดีเซล หรือ B100 เพื่อสะท้อนข้อมูลไปยังเกษตรกรให้ขายผลปาล์มได้ในราคาที่เป็นธรรม โดยจะมีการเก็บข้อมูลราคาของเกษตรกร ลานเท โรงสกัด โรงผลิต B100 และโรงกลั่นน้ำมันเชื่อมโยงกัน ซึ่งทำให้โครงสร้างราคาสอดคล้องกันทั้งระบบตามที่ตกลงกันไว้ ยกตัวอย่าง โรงงาน B100 ซื้อ CPO อยู่ที่ 23 บาทต่อกิโลกรัม จะสะท้อนราคาผลปาล์มอยู่ที่ 3.95 บาทต่อกิโลกรัม ราคา CPO อยู่ที่ 21 บาทต่อกิโลกรัม ราคาผลปาล์มจะอยู่ที่ 3.59 บาทต่อกิโลกรัม ราคา CPO อยู่ที่ 19 บาทต่อลิตร ราคาผลปาล์มจะอยู่ที่ 2.23 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่อไปนี้โรงกลั่น และผู้ค้าน้ำมันรับซื้อ B100 จะต้องผ่านระบบ Blockchain เท่านั้น เป็นการปฏิรูปวงจรซื้อขายปาล์มครั้งใหญ่ โดยปตท. ผู้ซื้อ B100 รายใหญ่จะผู้นำร่องเข้าร่วมระบบดังกล่าวนี้
“เมื่อได้ลงพื้นที่มาสร้างความเข้าใจให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มในเรื่องระบบ Block Chain แล้ว วันนี้เกษตรกรมีความหวังจะขายผลผลิตปาล์มน้ำมันมีความหวังได้สอดคล้องตามโครงสร้างที่ควรจะได้ ตอนนี้กระทรวงพลังงานโดยกรมธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างทำโครงการนำร่องเพื่อทดสอบถึงความเป็นได้ในการนำระบบ Blockchain มาใช้ โดยได้คัดเลือก 3 บริษัท ที่จะมาทดลองซื้อขายปาล์มผ่าน Block Chain แล้ว ซึ่งระบบนี้มีข้อดีที่ช่วยตัดวงจรพ่อค้าคนกลางออกไป เพราะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปาล์มน้ำมันถูกกดราคาให้ตกต่ำเรื่อยมา แม้ว่าไทยจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ปลูกปาล์มมากเป็นอันดับ 3 ของโลกก็ตาม ผมจึงอยากให้ข้อมูลและให้ความมั่นใจกับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มว่า นโยบายกระทรวงพลังงานจะเป็นเครื่องมือสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อได้รับราคาผลผลิตที่เป็นธรรม ไม่ถูกกดราคาอีกต่อไปตามนโยบาย พลังงานเพื่อทุกคน พลังงานเพื่อชุมชน ยกระดับเศรษฐกิจฐานราก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว
ด้านนางสาวลักขณา สุมาบัติ รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ระบบ Block Chain และแพลตฟอร์มเก็บรายละเอียดข้อมูลต่างๆ มีความพร้อมแล้ว โดยคาดว่าในวันที่ 8 มิ.ย. นี้ จะได้เริ่มทดสอบการซื้อขายปาล์มน้ำมันรูปแบบใหม่ผ่านระบบ Block Chain โดย 3 บริษัทที่ได้ผ่านการคัดเลือกแล้วเป็นผู้ดำเนินการ ได้แก่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด และบริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัด จากนั้นจะได้นำปัญหาและอุปสรรคมาปรับปรุงแก้ไขให้ระบบสมบูรณ์ภายในเดือน มิ.ย. นี้
สำหรับเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่จะเข้าร่วมระบบ Block Chain มีวิธีง่ายๆ เพียงโหลดแอพลิเคชั่นดังกล่าวนี้มาไว้ในมือถือ ลงทะเบียนชื่อ นามสกุล และหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เพียงเท่านี้ก็เข้าสามารถสู่ระบบการซื้อขายปาล์มน้ำมันผ่าน Block Chain ที่จะช่วยให้เกษตรกรขายปาล์มไม่ถูกกดราคาอีกต่อไป