ก.เกษตรฯเอาจริงแล้ว!! ใครเผาพื้นที่การเกษตร ตั้งแต่ 1 เม.ย.69 – 31 มี.ค.71 หมดสิทธิ์ร่วมโครงการสนับสนุนจากรัฐทุกกรณี

กระทรวงเกษตรฯเอาจริงแล้ว!! เกษตรกรโปรดทราบ ใครที่มีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตร ตั้งแต่ 1 เมษายน 2569 – 31 มีนาคม 2571 จะหมดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากภาครัฐทุกรายการ เป็นเวลา 2 ปี ยกเว้นการช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติ   “นเรศ” ชวนเกษตรกร 17 จังหวัดภาคเหนือร่วม “ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ” ชูมาตรการเข้มไม่เผาในพื้นที่เกษตรพร้อมตั้งศูนย์รณรงค์หยุดเผา เสริมแกร่งกลไกระดับพื้นที่ มุ่งแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์หยุดเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน “ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ” โดยมี นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กล่าวรายงานสรุปภาพรวมโครงการ และมีเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และในพื้นที่ 16 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมโครงการ ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ และผ่านระบบถ่ายทอดสด Zoom Meeting รวมทั้งสิ้นกว่า 1,400 คน

นายนเรศ กล่าวว่า โครงการรณรงค์หยุดเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน “ฮักบ้านเฮา หยุดเผากันเน้อ” เป็นการสร้างเครือข่าย และกระชับความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ นำโดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หน่วยงานภาคเอกชน ตลอดจนภาคประชาชน ในการขับเคลื่อนนโยบายลดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ปรับวิธีบริหารจัดการเศษวัสดุทางการเกษตรอย่างถูกวิธีและสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การไถกลบ การทำปุ๋ยอินทรีย์ การทำถ่านไบโอชาร์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) และส่งเสริมการทำเกษตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในโอกาสนี้ นายนเรศ ได้เปิด “ศูนย์รณรงค์หยุดการเผาในเขตปฏิรูปที่ดิน” เพื่อเสริมประสิทธิภาพกลไกการดำเนินงานในระดับพื้นที่ ต่อยอดองค์ความรู้สู่การพัฒนาแหล่งเรียนรู้การบริหารจัดการทรัพยากรในภาคเกษตรอย่างยั่งยืน พร้อมเน้นย้ำกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการสนับสนุนองค์ความรู้ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ภาคการเกษตร (ฉบับที่ 2) ว่าด้วยเกษตรกรที่มีประวัติการเผาในพื้นที่การเกษตร ตั้งแต่ 1 เมษายน 2569 – 31 มีนาคม 2571 จะหมดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสนับสนุนจากภาครัฐทุกรายการ เป็นเวลา 2 ปี ยกเว้นการช่วยเหลือกรณีภัยพิบัติ รวมถึงส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนแก่เกษตรกร และสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องอีกด้วย