โดย…ดลมนัส กาเจ

มาถึงวินาทีนี้ พอจะประเมินได้ว่า ในช่วงเวลานี้และอีก 2-3 ปีข้างหน้า กราบใดที่เราทำสวนยางพาราเพื่อขายน้ำยางและผู้ประกอบการเองก็ยังส่งออกในรูปแบบของวัตถุดิบ ราคายางพาราก็วนเวียนขึ้นๆ ลงๆ และขึ้นเต็มที่ น้ำยางสดไม่น่าจะเกิน กก.ละ 60 บาท
ฉะนั้นเกษตรกรชาวสวนยาง อย่าหวังรายได้จากขายน้ำยางอย่างเดียว ชาวสวนยางยุคใหม่ต้องบริหารจัดการ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ประกอบการสวนยางพารา ทำทุกวิธีทางเพื่อเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างอื่นมาแซมในสวนยาง ไม่ว่าจะเป็นต้นเหลียง ผักหวานป่า ดาหลา เป็นต้น แต่ต้องหาตลาดมารองรับก่อน บางคนก็เลี้ยงไก่ป่า
ตอนนี้ที่เห็นๆ และกำลังมาแรงคือ “คาร์บอนเครดิต” (Carbon Credit) คือสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตที่เกิดจากการที่สวนยางพาราช่วย “ดูดซับคาร์บอน” นั่นเอง โดยที่เกษตรกรต้องเข้าร่วมโครงการ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction) ของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
พูดง่ายคือ การนำสวนยางพาราเข้าสู่ระบบคาร์บอนเครดิต เพื่อสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรจากการลดและกักเก็บก๊าซเรือนกระจก โดยมีองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก. เป็นผู้รับรอง ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการขายคาร์บอนเครดิต และสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไปพร้อมๆกัน
บางคนอาจงงๆกับคำว่า “โครงการ T-VER” มันเป็นกลไกตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของไทย ที่ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) และโครงการนี้ช่วยเปลี่ยนต้นยางพาราในสวนให้เป็น “สินทรัพย์คาร์บอน” ที่สามารถสร้างรายได้จากการขายเป็น คาร์บอนเครดิต นั่นเอง

ส่วนรายได้จากคาร์บอนเครดิตนั้นขึ้นกับอายุของสวนยางเราด้วย โดยทั่วราคาเฉลี่ยของตลาดสมัครใจในไทยมักอยู่ที่ประมาณ 200–350 บาทต่อ 1 ตันคาร์บอน (tCO₂e) บางที่อาจเยอะกว่า คือสวนยืนต้นยิ่งเก่า–ยิ่งมูลค่าเพิ่ม
เช่นสวนยางอายุ 10–20 ปีเป็นต้น
ถ้าสนใจจริง ในวันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 13.00 – 16.30 น. จะมีการสัมมนา เรื่อง “ปรับสวนยางให้ทำเงิน ด้วยนวัตกรรม การตลาด และคาร์บอนเครดิต” คือพูดง่าย ๆ คือการทำสวนยางพารายุค Net Zero ทำเงินได้ 3 ช่องทาง
งานนี้จะจัดขึ้น ณ ห้องกำพล อดุลย์วิท ชั้น 2 อาคาร 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯโดยจะมีวิทยากรระดับกูรูในสายต่างๆ มาให้ความรู้ในทุกมิติในการทำสวนยางยุคใหม่ ที่จะนำไปสู่การทำสวนยางพารายุค Net Zero และเพิ่มรายได้
ถ้า่เราไม่เริ่มในวันนี้ วันหน้าเราลำบากแน่ ตอนนี้ตลาดโลกแย็บๆมาแล้วว่า เป็นกลไกตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ แต่ในอนาคต มีความเป็นไปได้ว่า จะไม่รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร รวมถึงยางพาราที่ปล่อยคาร์บอน หรือซื้อในราคาที่ต่ำ
โลกเปลี่ยน เกษตรกรต้องเลี่ยน ถ้าสนใจงานนี้สอบถามได้ที่ คุณพนิตา 080-424-2299 ทุกอย่างฟรี รับ 50 คนเท่านั้น
