โดย…ดลมนัส กาเจ
เกษตรกรสาวใหญ่ชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ ตัดสินใจพลิกแปลงเพาะปลูกผักสลัด หันมาปลูกพืชชนิดใหม่ “พริกเม็กซิกัน” เพียงรุ่นแรกมีรายได้ดีกว่า รุ่นที่สองมั่นใจพื้นที่ 2 ไร่ ต้องได้มากว่า 1.5 แสนบาทต่อรุ่น ปลูกเพียง 2 เดือนก็เก็บผลผลิตได้แล้ว
“พิสมัย พฤกษาฉิมพลี” สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจผักปลอดภัยบ้านห้วยตอง ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ หนึงในเกษตรกรที่ร่วมโครงการ ‘เพาะดี กินดี’ กับ บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด และ มูลนิธิรักษ์ไทย บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยปลูกผักสลัดขาย ผักสวย ได้มาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาดรับซื้อ แต่ตอนนี้หันมาปลูกพริกเม็กซิกันเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นพืชตัวใหม่ที่มีความท้าทาย

พิสมัย พฤกษาฉิมพลี
กระนั้นต้องใช้ความรู้และการดูแลที่มากกว่าผักเดิมๆ ที่เคยปลูก แต่ด้วยการสนับสนุนจากโครงการ ‘เพาะดี กินดี’ ทั้งด้านเทคนิคการปลูก การใช้ปุ๋ย และการดูแลโรคพืช ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด ผลผลิตพริกเม็กซิกันในรอบที่ผ่านมาทดลองปลูกในพื้นที่ 2 ไร่ ได้ผลผลิตอยู่ที่ 2,900–3,000 กิโลกรัม โดยมีโรงงานในจังหวัดลำพูนรับซื้อไปแปรรูปในราคาประมาณ 23–24 บาทต่อกิโลกรัม

ในส่วนที่เหลือจำหน่ายให้พ่อค้าแม่ค้าทั่วไปในราคา 50 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนเพราะการได้ใบ GAP ทำให้ตลาดเชื่อมั่นมากขึ้น ทำให้เรากล้าปลูกพืชใหม่และขยายผลผลิต เพราะมั่นใจว่ามีตลาดรองรับ ซึ่งรุ่นที่สองที่กำลังปลู

” แรกเป็นการทอลอง พื้นที่ 2 ไร่ได้มากว่า 9.6 หมื่นบาท ถือว่ารายได้ดีกว่าพืชที่เคยปลูกเพราะต้นทุนต่ำกว่า รุ่นที่สองที่กำลังออกผลผลิตมั่นใจต้องได้มากกว่ารุ่นกว่าเท่าตัว อย่างน้อยต้องได้ 1.5 บาท เพราะรู้ทิศทางในการดูแล้ว ถือว่ารายที่น่าพอใจที่สำคัญตลาดมีความชัดเจนมีเท่าไรโรงงานรับซื้อทั้งหมด” พิสมัย กล่าว
ก็นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกรบนที่สูงที่ปลูกพืชผักเมืองหนาวป้อนตลาด ที่เธอมั่นใจว่า จะมีรายได้มากกว่าพืชที่เคยปลูก และตั้งใจว่าจะปลูก “พริกเม็กซิกัน” ต่อไปจนกว่าจะมีพืชอย่างอื่นที่มีรายได้ดีกว่า
