ประกาศผลแล้ว!! “เกษตรกรดีเด่นสำนึกรักบ้านเกิด 2568” ปีนี้หนุ่มจากเมืองโอ่ง “ธราพงศ์ วงศ์วัฒนากิจ” แห่ง Gardener House คว้าชนะเลิศ

 มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ร่วมมือพันธมิตรรัฐ-เอกชน ประกาศผลแล้ว การเกษตรไทยที่ได้รับรางวัล “เกษตรกรดีเด่นสำนึกรักบ้านเกิด 2568” ปีนี้หนุ่มจากเมืองโอ่ง “ธราพงศ์ วงศ์วัฒนากิจ” แห่ง Gardener House คว้าชนะเลิศ ตามด้วย “สันติสุข พุฒพรม” เจ้าของ “กาแฟเขาพระเจ้า” จากชุมพร และ “อภิชาติ พูลเอียด “ จาก “ฟาร์มไส้เดือนบ้านเล็กในป่าใหญ่” จังหวัดพัทลุง ได้รางวัลรองชนะเลิศที่ 1 และ 2 ตามลำดับ

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568  มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ร่วมกับ กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดพิธีประกาศผล “เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ประจำปี 2568” ภายใต้แนวคิด “ฟาร์มแห่งอนาคต เกษตรกรผู้นำการเปลี่ยนแปลงสีเขียว” ณ ชั้น 6 อาคาร ทรู ดิจิทัล พาร์ค ถนนสุขุมวิท เขตบางนา กรุงเทพฯ เพื่อยกย่องเกษตรกรต้นแบบที่ประยุกต์ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยี และแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน ในการขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและความท้าทายในอนาคต ซึ่งในปีนี้ เป็นการจัดประกวดเกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ปีที่ 17

                                   บุญชัย เบญจรงคกุล (ซ้าย)-พีรพันธ์ คอทอง

นายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด ผู้ริเริ่มโครงการนี้ กล่าวว่า ตลอด 26 ปี มูลนิธิฯ มุ่งมั่น “สร้างคน” โดยน้อมนำหลัก เศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ มาเป็นแนวทางหลักในการพัฒนาสังคมและชุมชน โครงการคัดเลือกเกษตรกรฯ ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 สะท้อนพลังของคนทำเกษตรที่มุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนโดยปีนี้เน้นค้นหาเกษตรกรที่นำเทคโนโลยีผสานภูมิปัญญา เพื่อสร้างระบบเกษตรสีเขียว ที่เป็นแบบอย่างของการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างสมดุลและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ด้าน น.ส.ฤมล สงวนวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเปนอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมพิธีประกาศผล “เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิด ประจำปี 2568” ภายใต้แนวคิด “ฟาร์มแห่งอนาคต เกษตรกรผู้นำการเปลี่ยนแปลงสีเขียว” เพราะถือว่าเป็นการยกย่องเกษตรกรรุ่นที่มีการพัฒนาอาชีพเกษตรด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เอง ให้ความสำคัญในการพัฒนาภาคการเกษตรและผลผลิตของเกษตรกรอย่างรับผิดชอบต่อธรรมชาติ สร้างคุณค่าให้ชุมชน รวมถึงยกระดับภาคการเกษตรไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

                                                   ฤมล สงวนวงศ์

ทั้งนี้ตรงกับวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้  ที่ได้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของเกษตรกรไทยในยุคที่โลกกำลังเผชิญความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวน ภัยแล้ง น้ำท่วม ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และข้อจำกัดด้านทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงกระทบต่อภาคการผลิตอาหาร แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรจำนวนมากได้ลุกขึ้นปรับตัว  พัฒนาองค์ความรู้ นำนวัตกรรมมาใช้ในฟาร์ม และสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม โครงการนี้จึงต้องการยกย่องผู้ที่ไม่เพียงทำเกษตรเพื่อยังชีพ แต่ทำเกษตรเพื่ออนาคตของประเทศ และเพื่อความมั่นคงของระบบอาหารไทยอย่างแท้จริง” รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าว

ขณะที่ นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ตนขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรที่ได้รับรางวัลถือเป็นแบบอย่างอันทรงคุณค่า ที่สามารถผลิตสินค้าเกษตรคุณภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และนำนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าสินค้าได้อย่างดีเยี่ยม สอดคล้องกับทิศทางของกรมส่งเสริมการเกษตร ในการผลักดันให้เกษตรกรยุคปัจจุบันเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน และเป็น ‘ผู้นำการเปลี่ยนแปลง’ อย่างแท้จริง โครงการนี้จึงเป็นแบบอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการยกระดับภาคการเกษตรไทยให้ก้าวทันโลก

สำหรับเกษตรกรที่ได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นสำนึกรักบ้านในปี 2568 ได้แก่ 

รางวัลชนะเลิศ คุณธราพงศ์ วงศ์วัฒนากิจ จาก Gardener House จังหวัดราชบุรี ผู้พลิกชีวิตจากมนุษย์เงินเดือนสู่เกษตรกรยุคใหม่ นำเทคโนโลยี IoT ระบบรดน้ำอัตโนมัติ และ Weather Station มาใช้บริหารจัดการสวนมะพร้าวอินทรีย์อย่างแม่นยำ ผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านการใช้แตนเบียน การเลี้ยงผึ้งชันโรง และการสร้างแนวกันชนสีเขียว สู่โมเดล “ฟาร์มอินทรีย์อัจฉริยะ” ที่เป็นแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คุณสันติสุข พุฒพรม จาก กาแฟเขาพระเจ้า จังหวัดชุมพร พัฒนากาแฟท้องถิ่นให้เป็นสินค้าอินทรีย์ครบวงจร ตั้งแต่การปลูก การจัดการน้ำ-ดิน จนถึงการแปรรูปคุณภาพสูง พร้อมเปิดฟาร์มเป็นศูนย์เรียนรู้ ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้คนในชุมชน ยกระดับอาชีพและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คุณอภิชาติ พูลเอียด จาก ฟาร์มไส้เดือนบ้านเล็กในป่าใหญ่ จังหวัดพัทลุง อดีตวิศวกรที่สร้างมูลค่าจากสิ่งเล็ก ๆ ด้วยแนวคิด “จากมูลสู่มูลค่า” พัฒนาฟาร์มไส้เดือนด้วยระบบ Smart Farm ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น พร้อมต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์และสารปรับปรุงดินคุณภาพสูง เป็นที่พึ่งให้เกษตรกรและชุมชนรากหญ้าอย่างแท้จริง

ส่วนเกษตรกรดีเด่นอีก 7 ท่าน ได้แก่ 1.คุณทศพร เลิศคอนสาร (ปูนาแสนสวย) จังหวัดชัยภูมิ 2. คุณธนิถา ทีปกรนราพิตร (Nara Tamarind) จังหวัดเพชรบูรณ์ ,3. คุณปิยะ กิจประสงค์ (ฟาร์มมะเขือเทศเชอรี่แตะขอบฟ้า) จังหวัดสุพรรณบุรี,4. คุณพีระพงษ์ แดงสะอาด (ไร่แดงสะอาด อาณาจักรมันหวานญี่ปุ่น) จังหวัดราชบุรี,5. คุณวิภาดา โควินท์ (Kowin Garden) จังหวัดราชบุรี, 6. คุณสุพเจตน์ สินธุพัฒน์ (สวนทุเรียน แม่น้ำภูเขา) จังหวัดจันทบุรี, และ7. คุณสุไรนา บือราเฮง (ญาญา สุไรนา) จังหวัดนราธิวาส