ระดมมันสมองจากหน่วยงานภาครัฐ-นักวิชาการ-ภาคเอกชน ถกแก้ปัญหาฝุ่น “PM2.5”

สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ ระดมมันสมองจากตัวแทนหน่วยงานของรัฐ นักวิชาการ และภาคเอกชน ถกแนวทางแก้ปัญหาปมฝุ่น “PM2.5” ภาคเกษตรคือผู้ร้ายจริงหรือไม่? นายกฯสกท. ชี้ปัญหาฝ่นละอองขนาดจิ๋ว ถือเป็นภัยที่คุกคามต่อสุขภาพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างรุนแรง ที่ทุกภาคส่วนต้องมีส่วรวมการแก้ปัญหาด้วย

สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย (สกท.) จัดงานสัมมนาหัวข้อ “ฝุ่น PM2.5 ภาคเกษตรสร้างปัญหาจริงหรือ? ร่วมระดมสมองแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน” ณ ห้องอินทนิล อาคาร UNISERV มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระดมนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมระดมสมองไขปมปัญหาฝุ่น PM2.5 อัปเดตข้อมูล ค้นหาข้อเท็จจริงสัดส่วนปัญหาฝุ่นควันในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะจากกิจกรรมภาคเกษตร

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568  นายภิญโญ แพงไธสง นายกสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ถือเป็นปัญหาสำคัญและเป็นวาระแห่งชาติ เพราะถือเป็นภัยที่คุกคามต่อสุขภาพของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตที่จะมีฝุ่นหนาแน่น ในหลายพื้นที่ของประเทศต้องเผชิญกับระดับค่าฝุ่นที่สูงเกินมาตรฐาน จนส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งภาคเหนือก็เป็นอีกพื้นที่ที่มักประสบปัญหารุนแรง ในขณะที่ “ภาคเกษตร” ก็มักจะถูกระบุว่าเป็นสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะกิจกรรมการเผาในที่โล่ง (Open Burning)

ภิญโญ แพงไธสง

“การจัดสัมมนาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อค้นหาคำตอบ ยุติการกล่าวโทษ และหันมาอัปเดตข้อมูลทางวิชาการด้วยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่แม่นยำ ว่าแท้จริงแล้วภาคเกษตรเป็นสาเหตุหลักที่สร้างปัญหาฝุ่น PM2.5 จริงหรือ? หากเป็นเช่นนั้นคิดเป็นสัดส่วนเท่าใด และกิจกรรมการเกษตรใดที่ก่อให้เกิดปัญหานั้น ทั้งนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนรับมือ และแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเราจำเป็นจะต้องมีข้อมูลวิทยาศาสตร์ หรือข้อมูลทางวิชาการที่สามารถอ้างอิงและตรวจสอบได้เป็นพื้นฐาน” นายภิญโญ กล่าว

สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสถาบันที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมและเกษตรกรรมมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดและอัปเดตข้อมูล อาทิ ดร.สมพร จันทระ ประธานคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดร.สุดเขต สกุลทอง  วิทยาลัยบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายเดโช ไชยทัพ ผู้อํานวยการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (ภาคเหนือ) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน

นางลาวัณย์ อุ่นจัน หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช  สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ นางสาววรนุช  จันทร์สุริย์ นักภูมิสารสนเทศชำนาญการ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) – GISTDA ศาสตราจารย์ปฏิบัติ ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มช. และหัวหน้าข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร.สมเกียรติ ชัยพิบูลย์ คณบดีคณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ หัวหน้าโครงการธรรมชาติปลอดภัยแม่ปาน-สันเกี๋ยงโมเดล และ ดร.สุนทร คุณชัยมัง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต

ส่วนประเด็นสำคัญที่มีการแลกเปลี่ยนกัน ได้แก่ การนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดของ PM2.5 ในภาคเหนือ โดยเน้นย้ำถึงสัดส่วนของการเผาในที่โล่งทางการเกษตรเทียบกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น การจราจร และมลพิษข้ามพรมแดน เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ว่าปัญหาไม่ได้มาจากปัจจัยเดียว ซึ่งสำหรับภาคการเกษตรนั้น กิจกรรมการเกษตรที่ถูกมองว่าสร้างปัญหาอย่างชัดเจน เช่น การเผาไร่อ้อย ก่อนการเก็บเกี่ยว เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความรวดเร็ว และการเผาตอซังข้าวในบางพื้นที่ ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องแก้ไขด้วยการสร้างแรงจูงใจและนวัตกรรมทางการตลาด

ในขณะที่สื่อก็ต้องมีบทบาทในการสร้างความเข้าใจ และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และประชาชน ในการสนับสนุนการทำเกษตรแบบปลอดการเผา หรือลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ของสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำข้อมูลที่เชื่อถือได้และแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม มาเผยแพร่เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 ในภาคเหนืออย่างยั่งยืนและเป็นธรรม