นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ
“นเรศ” เดินหน้าจัดการดินและน้ำอย่างยั่งยืน เน้นทำระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์จากกองทุนส่งเสริมและอนุรักษ์พลังงาน เป้าหมาย 80 แห่งทั่วประเทศ พร้อมจัดทำจังหวัดต้นแบบระบบกระจายน้ำแห่งละหนึ่งโครงการ และพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ ส.ป.ก. จังหวัดละ 1 แห่ง ภายในปี 2569
นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลังเป็นประธานมอบนโยบายแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน และถ่ายทอดสดในระบบ VDO Conference ไปยังพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบนโยบาย และแนวทางดำเนินงานเพื่อนำไปปฏิบัติ โดยมีนางสาวสุมิตรา วัฒนา อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวต้อนรับและรายงานภาพรวมกรมพัฒนาที่ดิน ณ ห้องประชุมกรมพัฒนาที่ดิน ว่า ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาที่ดินเร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำหนดนโยบายหลัก 6 ข้อ และนโยบายเร่งด่วน 3 ข้อ พร้อมกันนี้ ได้มอบนโยบายเพิ่มเติมเพื่อมุ่งสร้างผลลัพธ์เชิงรูปธรรมด้านการจัดการดินและน้ำทั่วประเทศ ให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้
นายนเรศ ย้ำให้กรมพัฒนาที่ดินเดินหน้าบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ โดยจัดทำระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์จากกองทุนส่งเสริมและอนุรักษ์พลังงาน เป้าหมาย 80 แห่งทั่วประเทศ พร้อมจัดทำจังหวัดต้นแบบระบบกระจายน้ำแห่งละหนึ่งโครงการ และพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ ส.ป.ก. จังหวัดละ 1 แห่ง ภายในปี 2569 รวมถึงการปรับปรุงแหล่งน้ำเดิมของกรมพัฒนาที่ดิน 280 แห่ง เพื่อส่งมอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบริหารจัดการต่ออย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมอบนโยบายให้จัดการทรัพยากรทางการเกษตร โดยจัดทำต้นแบบระบบอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน อย่างน้อย 10 พื้นที่ภายในปี 2569 พร้อมขยายผลให้ครอบคลุมทุกลุ่มน้ำภายใน 10 ปี ตลอดจนฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เช่น จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน และพะเยา ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี รวมถึงบูรณาการกับสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) เพื่อพัฒนาพื้นที่สูงให้เกิดความยั่งยืน 10 แห่ง ภายในปี 2569
สำหรับการบริหารจัดการพื้นที่เกษตร รมช.นเรศ ได้สั่งการให้กรมพัฒนาที่ดินเร่งจำแนกเขตป่าไม้ถาวรให้ได้ไม่น้อยกว่า 10 พื้นที่ภายในปี 2569 และแล้วเสร็จภายใน 3 ปี พร้อมทั้งผลักดันการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมจากนาข้าวไปสู่พืชเศรษฐกิจและเกษตรผสมผสาน ตามความต้องการของเกษตรกรไม่น้อยกว่า 200,000 ไร่ จัดทำแผนระยะ 5 ปีให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
นอกจากนี้ นโยบายเร่งด่วนที่ต้องขับเคลื่อน คือการวิเคราะห์คุณภาพดินเพื่อการใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสมให้สอดคล้องกับพื้นที่ ร่วมกับสถาบันเกษตรกร เพื่อผลิตปุ๋ยตามความจำเป็นของพื้นที่ จัดทำโครงการนำร่องไม่น้อยกว่า 10 แห่ง พร้อมทั้งจัดทำต้นแบบเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดิน สร้างต้นแบบจังหวัดละ 10 แห่ง เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และรักษาสิ่งแวดล้อม และดำเนินการจัดตั้งหมู่บ้านอนุรักษ์ดินน้ำต้นแบบจังหวัดละ 1 แห่งภายในปี 2569 และขยายให้ครอบคลุมลุ่มน้ำหลักทั่วประเทศภายใน 10 ปี เพื่อสร้างระบบการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
“กรมพัฒนาที่ดินถือเป็นหน่วยงานหลักด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาทรัพยากรดินและน้ำของประเทศ จึงได้มอบแนวทางให้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ Quick Win ที่มุ่งปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำในไร่นา การส่งเสริมระบบกระจายน้ำ และการปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน ตลอดจนเร่งบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ เช่น กระทรวงพลังงาน เพื่อเชื่อมโยงการใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ในระบบกระจายน้ำ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนพลังงานให้เกษตรกร และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในภาคเกษตรได้จริง“ รมช.เกษตรฯ กล่าว