
นวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพพลิกโฉม “ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทย” จากพืชอาหารสัตว์ทั่วไป ให้กลายเป็น “พืช เศรษฐกิจแห่งอนาคต” ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ เกษตรกรรม พลังงาน สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหารของประเทศ โดยเฉพาะในยุคที่การเกษตรต้ องเผชิญกับความท้ าทายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน การเสื่อมโทรมของดิน และแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีชีวภาพจึงกลายเป็นหั วใจสำคัญของการฟื้นฟูเกษตร และสร้างความยั่งยืนให้กับทั้ งระบบการผลิตอาหาร
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตข้ าวโพดเลี้ยงสัตว์รายใหญ่ของภูมิ ภาคอาเซียน โดยมีพื้นที่ปลูกกว่า 6-7 ล้านไร่ และผลผลิต 4-5 ล้านตันต่อปี ซึ่งกว่า 90% ของผลผลิตทั้งหมดถูกนำไปใช้เป็ นวัตถุดิบอาหารสัตว์ ส่งผลให้อุตสาหกรรมปศุสัตว์ ไทยมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่ าแสนล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม เกษตรกรยังต้องเผชิญกับความท้ าทายสำคัญ เช่น ศัตรูพืชอย่างหนอนกระทู้ลายจุ ดที่สร้างความเสียหายกว่า 40% ต่อฤดูกาล และปัญหาฝนทิ้งช่วงที่ทำให้ ผลผลิตลดลง 15-25% ขณะเดียวกัน วัชพืชที่ไม่ได้รับการจัดการอย่ างมีประสิทธิภาพยังแย่ งสารอาหารและน้ำจากพืชหลัก ส่งผลให้ต้นข้าวโพดอ่อนแอและคุ ณภาพผลผลิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

การเกษตรสมัยใหม่จึงต้องปรับตัว โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ (Biological) เข้ามามีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านการบำรุงดิน การกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช และการควบคุมโรค แมลงและวัชพืชอย่างเป็นมิตรต่ อสิ่งแวดล้อม การใช้สารชีวภาพผสมผสานกั บการใช้สารเคมีไม่เพียงช่วยลดต้ นทุนในระยะยาว แต่ยังฟื้นฟูความสมดุลของระบบนิ เวศในไร่ ทำให้ดินมีชีวิตมากขึ้น พืชแข็งแรงขึ้น และผลผลิตมีคุณภาพที่สม่ำเสมอ โดยใช้แนวทางการจัดการพืชแบบบู รณาการ (ICM) ที่ผสานเทคโนโลยีชีวภาพ ด้วยการใช้จุลินทรีย์หรือสารชี วภาพร่วมกับวิธีการเกษตรที่ยั่ งยืน เพื่อควบคุมศัตรูพืชและส่งเสริ มสุขภาพดิน การผสมผสานนี้ช่วยเพิ่มผลผลิ ตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาสมดุลสิ่งแวดล้ อมและลดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ บริโภคและเกษตรกร
ในปัจจุบัน เกษตรกรไทยเริ่มหันมาใช้ เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อเสริมประสิ ทธิภาพการปลูกข้าวโพดกันมากขึ้น ซินเจนทา ในฐานะผู้นำด้านนวั ตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรระดั บโลก จึงได้พัฒนาโซลูชันชีวภาพที่ ตอบโจทย์เกษตรกรยุคใหม่อย่ างครบวงจร ทั้งการใช้จุลินทรีย์ชีวภาพช่ วยปรับปรุงดินให้ร่วนซุยและอุ ดมสมบูรณ์มากขึ้น การใช้สารควบคุมทางชีวภาพ (Biocontrols) เพื่อจัดการแมลงศัตรูพืชและวั ชพืชโดยไม่ทำลายดิน รวมถึงการใช้สารกระตุ้นทางชี วภาพ (Biostimulants) เพื่อช่วยให้ข้าวโพดมี ความทนทานต่อสภาพแล้งหรือฝนทิ้ งช่วง เช่น ผลิตภัณฑ์ควอนติส ที่ช่วยลดอุณหภูมิพืช ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และเพิ่มปริมาณให้ผลผลิตมีคุ ณภาพ เพราะข้าวโพดที่แข็งแรงย่อมให้ ผลผลิตที่มากกว่าและมีคุณภาพดี ขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิ ภาพการใช้ธาตุอาหาร (Nutrient Use Efficiency – NUE) ที่ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุ อาหารได้ดีขึ้น

ซินเจนทายังมีเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ เฉพาะ “GEA POWER” ที่ผสานพลังของสารสกัดจากพื ชธรรมชาติ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทนแล้ งและการดูดซึมสารอาหารของข้ าวโพด ตัวอย่างจากการทดลองในบราซิ ลพบว่า ข้าวโพดที่ใช้สารกระตุ้นทางชี วภาพสามารถเพิ่มผลผลิตได้ 5–10% โดยไม่ต้องรดน้ำเพิ่มเติม ส่วนในสหรัฐอเมริกา การใช้ฟีโรโมนจากสารชีวภาพเพื่ อลดการผสมพันธุ์ของแมลงศัตรูพื ชช่วยลดความเสียหายได้กว่าครึ่ งหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิ ดของเกษตรฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ที่เน้นให้ผลผลิตและสิ่งแวดล้ อมเติบโตไปพร้อมกัน
นางสาววรรณภร วัฒนาเกษมสัตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยื นและบรรษัทสัมพันธ์ บริษัท ซินเจนทา ครอป โปรเทคชั่น จำกัด กล่าวว่า “การนำเทคโนโลยี ชีวภาพมาประยุกต์ใช้กับข้ าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มผลผลิ ตเท่านั้น แต่คือการสร้างระบบเกษตรที่ยั่ งยืนในระยะยาว เพราะจะช่วยให้เกษตรกรมีความยื ดหยุ่นมากขึ้นในการจัดการศัตรู พืชและโรคพืช รับมือกับความเครียดจากสิ่ งแวดล้อมได้ดีขึ้น ฟื้นฟูสุขภาพของดิน และสร้างความสมดุลในระบบนิเวศ

วรรณภร วัฒนาเกษมสัตย์
ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ ยนผ่านสู่เกษตรฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) อย่างแท้จริง ทั้งนี้ บทบาทของผลิตภัณฑ์ชีวภาพจะมี ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพั ฒนาการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไทย ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพผลผลิ ต ซินเจนทาพร้อมทำหน้าที่เป็นพั นธมิตรที่เดินเคียงข้ างเกษตรกรในทุกฤดูเพาะปลูก ผ่านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และการถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อให้การเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ ยงสัตว์ ไทยเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยื นไปพร้อมกับสิ่งแวดล้อม”
“การบริหารจัดการไร่ข้าวโพดเลี้ ยงสัตว์อย่างเป็นระบบจะช่วยเพิ่ มผลผลิตและคุณภาพ และในขณะเดียวกันการใช้ผลิตภั ณฑ์สารชีวภาพที่เหมาะสมจะทำให้ ต้นข้าวโพดแข็งแรง ทนทานต่อโรคและสภาพอากาศที่ แปรปรวน ลดต้นทุนการผลิต ยกระดับคุณภาพผลผลิต และยังสร้างคุณค่าต่อดิน สิ่งแวดล้อม และชีวิตเกษตรกรอย่างยั่งยืน เมื่อเกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิ ตต่อไร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมสร้างรายได้ที่มั่นคง พร้อมต่อยอดสู่ความเข้มแข็ งทางเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ กับอุตสาหกรรมปศุสัตว์ทั้ งในประเทศและระดับโลก” นางสาววรรณภร กล่าว
