ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า
“ธรรมนัส” เดินหน้าต่อมอบโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร และโฉนดต้นยาง ปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกร พร้อมเร่งพัฒนาอ่างเก็บน้ำหนองกลางโคก หวังแก้ปัญหาให้เกษตรกรและประชาชนชาวชัยภูมิอย่างยั่งยืน
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการและพบปะเกษตรกร เพื่อรับฟังปัญหาจากเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ พร้อมมอบปัจจัยการผลิตทางการเกษตร โฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร และโฉนดต้นยาง รวมถึงตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการประชาชนในโครงการทำหมัน สุนัข – แมว ฟรี โดยมี นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ โรงเรียนคอนสวรรค์ ต.คอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ
จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามการพัฒนาขุดลอกอ่างเก็บน้ำหนองกลางโคก บ้านหนองแดง หมู่ที่ 5 และบ้านกุดจิก หมู่ที่ 8 ต.หนองข่า อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งสภาพพื้นที่ดังกล่าวเป็นภูเขา น้ำฝนที่ตกลงมาจะไหลลงสองฝั่ง ทำให้ไม่สามารถกักเก็บได้เต็มที่ รวมถึงอ่างเก็บน้ำหนองกลางโคก มีความจุเพียง 20,000 ลูกบาศก์เมตร ทำให้ไม่เพียงพอต่อการเก็บกักน้ำสำหรับภาคการเกษตรและอุปโภคบริโภคในพื้นที่ จึงได้มอบหมายกรมชลประทานเร่งดำเนินการสำรวจออกแบบและสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
รวมถึงเร่งหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้แทนจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าไม่สร้างผลกระทบต่อเขตพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มความจุเป็น 150,000 ลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 200 ไร่
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน ได้วางแผนขุดลอกและปรับปรุงอ่างเก็บน้ำหนองกลางโคก อ.เกษตรสมบูรณ์ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำคัญ ที่สนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่ ตามแผนพัฒนาทรัพยากรน้ำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทานแล้ว ยังสร้างความมั่นคงด้านน้ำในระยะยาว ลดปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง รวมถึงสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรว่าจะสามารถเพาะปลูกได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งได้อย่างยั่งยืนในอนาคต