“อามินทร์” โชว์ผลงานกรมวิชาการเกษตรในปี 68 ระบุเน้นนวัตกรรมวิจัย หนุนเกษตรไทยยั่งยืน

 

“อามินทร์” โชว์ผลงานกรมวิชาการเกษตรในปี 68 ระบุเน้นนวัตกรรมวิจัย หนุนเกษตรไทยยั่งยืน ยกระดับสินค้า ลดต้นทุน สร้างรายได้ พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความท้าทายตลาดโลก

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานแถลงผลงานกรมวิชาการเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2568 ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมงานวิจัย สร้างโอกาสให้ภาคเกษตรไทยอย่างยั่งยืน” Innovative Research for Sustainable Thai Agriculture ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 – 30 กันยายน 2568 โดยมี นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ผู้บริหารกรมวิชาการเกษตร ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ เจ้าหน้าที่ ทั้งภายในและภายนอกกรมวิชาการเกษตร รวมถึงเกษตรกรและผู้สนใจ เข้าร่วม ณ ห้องประชุม Tradition Hall สวนนงนุช พัทยา จังหวัดชลบุรี

ภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วย การมอบรางวัลคนดี ผลงานเด่นของกรมวิชาการเกษตร จำนวน 9 ประเภท รวม 61 รางวัล การประชุมวิชาการ การบรรยายผลงานเด่น การเสวนา การบรรยายพิเศษ และนิทรรศการผลงานวิชาการด้านต่าง ๆ ซึ่งจากการดำเนินงานของกรมวิชาการเกษตร สามารถนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืช แก้ไขปัญหาการผลิตพืชให้เกษตรกร รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก ยกระดับการผลิตพืชให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการค้า สร้างรายได้ให้เกษตรกร และพัฒนาการผลิตทางการเกษตรของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม

อามินทร์ มะยูโซ๊ะ  

นายอามินทร์ กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร ถือเป็นหน่วยงานหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีภารกิจด้านการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพืช รวมทั้งการให้บริการวิชาการ เพื่อยกระดับสินค้าเกษตร และเพิ่มศักยภาพของเกษตรกร ซึ่งเป็นกลไกสำคัญ ในการสร้างรายได้ให้เกษตรกร และเสริมสร้างความเข้มแข็งในการรับมือกับความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช ความมั่นคงทางอาหาร อาหารสุขภาพแห่งอนาคต ตลอดจนการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ

นายอามินทร์ กล่าวอีกว่าตยมั่นว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่กรมวิชาการเกษตรได้พัฒนาขึ้น สามารถนำไปขยายผลสู่การปฏิบัติและใช้ประโยชน์ได้จริง โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) การยกระดับสินค้าเกษตรและบริการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ตอบสนองความต้องการตลาดในยุคการแข่งขันสูง 2) การลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร การใช้พันธุ์พืชที่เหมาะสม การพัฒนาพันธุ์พืชใหม่ การใช้เครื่องจักรกลเกษตร และจัดการหลังการเก็บเกี่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และ 3) การเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน การปรับปรุงกฎหมายและขั้นตอนบริการให้ทันสมัย การสร้างมาตรฐานสินค้าเกษตรที่เข้มแข็งป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย และปราบปรามปุ๋ยและสารเคมีปลอมอย่างจริงจัง