กรมประมง ครบรอบปีที่ 99 ก้าวสู่ “Fisheries Transformation” จัดแสดงนิทรรศการ 9 โซน “การประมง 3 น้ำ สู่แผ่นดิน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้” เปิดมิติใหม่สู่วิถียั่งยืน ยกระดับประมงไทยสู่มาตรฐานสากล โชว์ศักยภาพ GDP ประมงแตะ 1.38 แสนล้านบาท พร้อมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำออนไลน์ลงแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สำคัญของไทย 6 แห่ง 

วันที่ 22 กันยายน 2568  กรมประมงจัดงาน “วันสถาปนากรมประมง ครบรอบปีที่ 99” และ “วันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568” ณ ห้องประชุมอานนท์ กรมประมง พร้อมเดินหน้ายกระดับภาคการประมงไทยสู่มาตรฐานสากล ผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรม สร้างความมั่นคงทางอาหาร และรายได้แก่เกษตรกรปีที่ผ่านมา GDP ภาคประมงสูงถึง 138,358 ล้านบาท ส่งออกกว่า 1.76 ล้านตัน มูลค่ากว่า 240,000 ล้านบาท โดยงานนี้มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำออนไลน์จาก 6 แหล่งน้ำสำคัญ กว่า 2.6 ล้านตัว เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และจัดแสดงนิทรรศการ 9 โซน สะท้อนบทบาทกรมประมงตลอด 99 ปี

                                                                         บัญชา สุขแก้ว 

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสถาปนากรมประมงครบรอบปีที่ 99 ว่า กรมประมงให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะยกระดับภาคการประมงไทยให้สามารถแข่งขันได้ด้วยการพัฒนาและบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยการพัฒนาการผลิตสัตว์น้ำและสินค้าประมงที่ได้มาตรฐาน พร้อมผลักดันงานวิจัยและนวัตกรรมที่สร้างความมั่งคั่งแก่เกษตรกรและพี่น้องชาวประมง ส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสมและสมดุล และป้องปรามการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรประมงให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด เป็นการสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพประมงให้เกิดวิถีความอยู่ดีมีสุขให้กับเกษตรกรชาวประมงและประชาชนมาโดยตลอด

เห็นได้จากปัจจุบันประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GDP ภาคการประมง สูงถึง 138,358 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.09 และยังมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ในปีที่ผ่านมาผลผลิตทางการประมงรวมทั้งสิ้นกว่า 2.5 ล้านตัน และสามารถส่งออกสินค้าประมงได้มากถึง 1.76 ล้านตัน สร้างมูลค่ากว่า 240,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขับเคลื่อนภารกิจงานที่สำคัญที่ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในธรรมชาติ และการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน อาทิ การบริหารจัดการประมงทะเลและประมงน้ำจืด การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในการบริหารจัดการทรัพยากร รวมถึงการพัฒนาด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเน้นการพัฒนาสายพันธุ์ที่แข็งแรงต้านทานโรค การยกระดับมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงเพื่อการส่งออก การฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเล และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ฯลฯ

อีกทั้ง กรมประมงยังมีการบูรณาการขับเคลื่อนและยกระดับภาคการประมงไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และใช้ทรัพยากรอย่างสมดุลยั่งยืนควบคู่ไปกับการส่งเสริมการผลิตและการตลาดอย่างเป็นรูปธรรมในทุกมิติ ด้วยกลยุทธ์ “สร้าง เสริม เพิ่ม ยก พัฒนา” สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ด้านการประมง ยกระดับคุณภาพสินค้า เพิ่มมูลค่าและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการประมง เป็นการสร้างโอกาสเสริมศักยภาพและความเข้มแข็งให้กับพี่น้องชาวประมง ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และ “1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมร่วมกันผลักดันพระราชบัญญัติการประมงฉบับใหม่ออกมาบังคับใช้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงสู่ความยั่งยืน

สำหรับการจัดงานสถาปนากรมประมง ครบรอบปีที่ 99 และวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่จัดขึ้นพร้อมกันในวันนี้ นอกจากจะมีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกรม ทำบุญเลี้ยงพระ และวางพวงมาลาถวายสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนกแล้ว ยังมีกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำออนไลน์ลงแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่สำคัญของไทย 6 แห่ง ได้แก่ บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา หนองหาร จังหวัดสกลนคร คลองประเวศบุรีรมย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา หาดเก้าเส้ง จังหวัดสงขลา และ หาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา

จำนวนทั้งสิ้น 2,599,999 ตัว โดยสัตว์น้ำที่ปล่อยมีทั้งหมด 12 ชนิด ประกอบด้วย ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลาบ้า ปลาสร้อยขาว ปลากาดำ ปลากระแห ปลาดุกอุย ปลากระแห ปลาอีกง ปลากะพงขาว ปลากะพงแดง กุ้งแชบ๊วย และ กุ้งกุลาดำ นอกจากนี้ ยังมีพิธีการมอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตรให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวงการประมงไทย ได้แก่ อธิบดีกรมประมงในวาระเกษียณอายุราชการ เกษตรกรดีเด่นและสถาบันเกษตรกรดีเด่นด้านการประมง ข้าราชการดีเด่นและพนักงานราชการดีเด่น อาสาสมัครประมงดีเด่น ผู้มีส่วนร่วมในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ และมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับรางวัลเกียรติยศที่กรมประมงได้รับ (รางวัลเลิศรัฐและรางวัลอื่น ๆ) จำนวน 6 รางวัล

นอกจากนี้ ยังมีพิธีประกาศเกียรติคุณให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมประมงที่มีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม ได้แก่ รางวัลงานวิจัยดีเด่น รางวัล Best Practice รางวัล Smart Officer คณะทำงานขับเคลื่อนด้วยพลังคนรุ่นใหม่ (DOF Young Blood) รางวัลประมงอำเภอขวัญใจประชาชน รางวัลหน่วยงานเบิกจ่ายที่มีความเป็นเลิศ และพิธีประดับเครื่องหมายตรวจการประมง และมอบเครื่องหมายตรวจการประมงกิตติมศักดิ์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานของกรมประมง ตลอดจนข้าราชการและลูกจ้างเกษียณอายุราชการ

ไฮไลท์สำคัญในงานครบรอบวันสถาปนากรมประมง ปีที่ 99 คือ การจัดแสดงนิทรรศการทางการประมงภายใต้ธีม 99th DOF “Fisheries Transformation, Rise and Gain : การประมง 3 น้ำ สู่แผ่นดิน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้” ซึ่งแบ่งออกเป็น 9 โซน ร้อยเรียงเรื่องราวในภาคการประมงอย่างครบถ้วน ประกอบด้วย

โซนที่ 1 : นิทรรศการใต้ร่มพระบารมี 99 ปี พระมหากษัตริย์กับการประมง นำเสนอพระราชกรณียกิจด้านการประมงของพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกรมประมงในสมัยรัชกาลที่ 7 จนถึงปัจจุบัน

โซนที่ 2 : นิทรรศการผลสำเร็จการดำเนินงานการขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำเสนอการดำเนินงานการขับเคลื่อนงานของกรมประมงที่สอดรับกับนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โซนที่ 3 : นิทรรศการ 99 ปีกรมประมง 99 ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำที่นำมาบริโภคและแปรรูป นำเสนอผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสัตว์น้ำ 99 ชนิด ทั้งสัตว์น้ำจืด สัตว์น้ำชายฝั่ง และสัตว์น้ำทะเล ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการสินค้าเกษตรมูลค่าสูง โครงการแปลงใหญ่ โครงการองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น ซึ่งโซนนี้ถือเป็นไฮไลท์ที่น่าสนใจ ที่จะมีการชมและชิมผลิตภัณฑ์ทั้ง 99 ชนิด

โซนที่ 4 : นิทรรศการสัตว์น้ำพันธุ์ดี และสัตว์น้ำที่กรมประมงเพาะพันธุ์ได้ นำเสนอนิทรรศการสัตว์น้ำพันธุ์ดี สายพันธุ์ใหม่ 7 ชนิด ได้แก่ ปลานิล ปลานิลแดง ปลาสลิด ปลาตะเพียนขาว ปลาหมอไทย กุ้งขาวแวนนาไม กุ้งก้ามกราม และสัตว์น้ำที่เพาะพันธุ์ได้ 10 ชนิด ได้แก่ ปลารากกล้วยรุ่งทิพย์ ปลารากกล้วยจินดา ปลาเลียหิน ปลาค้อลายเสือกลาง ปลาค้อหกแถบ ปลามูดหลังจุด ปลาจิ้มฟันจระเข้ยักษ์ ปลากัดกระบี่ ปลาปล้องอ้อย และปลาก้างพระร่วง

โซนที่ 5 : นิทรรศการเชิดชูเกียรติความสำเร็จของเกษตรกรและชาวประมง นำเสนอการประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติเกษตรกรดีเด่น สถาบันเกษตรกรดีเด่น อาสาสมัครประมงดีเด่น และ Young Smart Farmer

โซนที่ 6 : นิทรรศการนโยบายประมง 5 ด้าน นำเสนอนิทรรศการกรอบแนวคิดนโยบายและแผนบริหารจัดการการประมง พ.ศ. 2566 – 2570 ทั้ง 5 ด้าน

โซนที่ 7 : นิทรรศการประมงอัจฉริยะ (Smart Fisheries) จัดแสดงระบบดิจิทัลของกรมประมงในคอนเซ็ปต์ “ประมงอัจฉริยะ ด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ยกระดับประมงไทย สู่เกษตรแม่นยำ”

โซนที่ 8 : นิทรรศการพัฒนาประมงทะเล นำเสนอภารกิจที่สำคัญของเรือสำรวจประมงของกรมประมง ได้แก่ เรือสำรวจประมงจุฬาภรณ์ และเรือสำรวจประมงมหิดล ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และการประมงนอกน่านน้ำไทยสู่มาตรฐานสากล ซึ่งนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับเรือประมงนอกน่านน้ำไทย เช่น มาตรฐานการควบคุม ผลจับสัตว์น้ำ สวัสดิการลูกเรือ ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล

โซนที่ 9 : นิทรรศการประมงโชว์เคส นำเสนอผลสำเร็จของเกษตรกร ชาวประมง ที่ได้รับการสนับสนุนต่อยอดจนประสบผลสำเร็จ มีการจำหน่ายออกสู่ช่องทางการตลาด เพิ่มมูลค่า ดังนี้

– จัดแสดง 9 มัจฉา 9 ปลาส้ม ภูมิปัญญาไทย สู่อาหารพื้นถิ่นแปรรูปเพิ่มมูลค่า ซึ่งมีการนำเสนอการผลิตปลาส้มจากปลา 9 ชนิด 9 รูปแบบ จากพื้นถิ่นทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย

– จัดแสดง โชว์ ชวน ชิม ผลิตภัณฑ์ประมงที่เกษตรกรพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์จนประสบความสำเร็จ เช่น Fisher Me จากฟาร์มเลี้ยงปลานิล และ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรปลากราย จังหวัดชัยนาท

อธิบดีกรมประมง กล่าวอีกว่า ในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 99 กรมประมงจะยังคงยืนหยัดเพื่อพัฒนาและขับเคลื่อนภาคการประมงของไทยให้ก้าวไปสู่ความยั่งยืน เกิดความมั่นคงทางด้านอาหารดังความมุ่งหมายที่จะให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลก ควบคู่ไปกับคุณภาพชีวิตที่ดีและอาชีพที่มั่นคงของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และชาวประมง