ศูนย์ฯ คุ้งกระเบน เดินหน้าหนุนเกษตรกรเพาะเลี้ยง “สาหร่ายผักกาดทะเล” นำอบแห้งขาย กก. 5,000  ทำผลิตภัณฑ์โกยเงินเป็นล้าน

                                                                    กัญญารัตน์ สุนทรา

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดําริ ผลักดันเกษตรกรและ ชุมชนตามแนวชายฝั่งทะเล พัฒนาการเลี้ยง “สาหร่ายผักกาดทะเล” ควบคู่ไปกับการแปรรูป เผยนำไปอบแห้งสร้างมูลค่าเพิ่ม 10 เท่า ขายในราคา กก.ละ 5,000 บาท พร้อมพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปได้หลากหลาย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสําอาง อาหารเสริม และรักษาสิ่งแวดล้อม จนสามารถสร้างรายได้เข้าชุมนับล้านบาท

กัญญารัตน์ สุนทรา ผู้อํานวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดําริ อําเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยถึงการเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเลของศูนย์ฯ คุ้งกระเบน หลังจากได้รับการสนับสนุนจากสํานักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ว่า ทางศูนย์ฯ คุ้งกระเบน กําลังเร่งผลักดันให้เกษตรกรพัฒนาการแปรรูปมากขึ้น โดยในปัจจุบันความต้องการของตลาดสาหร่ายผักกาดทะเลมีเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงยังมีผลผลิตจํากัด

ขณะเดียวกันสาหร่ายผักกาดทะเลก็สามารถเลี้ยงและสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรที่อยู่ตามพื้นที่ชายฝั่งทะเล ซึ่งการเลี้ยงจะมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก คือ การเลี้ยงในระบบอควาโปนิกส์ ที่เลี้ยงใช้ปุ๋ยจากการเลี้ยงสัตว์ทะเล เช่น ปู ปลา ในระบบน้ำวน และการเลี้ยงในถังไฟเบอร์กลาสที่ใช้น้ำหมักจุลินทรีย์เป็นอาหาร ซึ่งทั้งสองรูปแบบให้ผลผลิตในการเลี้ยงเป็นที่น่าพึงพอใจใกล้เคียงกัน โดยจะใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 21 วัน

“ตอนนี้เรามีเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรอยู่ 6 กลุ่มที่เลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล แต่เนื่องจากความต้องการของ ตลาดมีมาก ทําให้ผลผลิตที่ได้ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค จึงอยากจะขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้น ซึ่ง หากเกษตรกรท่านใดสนใจก็สามารถเข้ามาติดต่อขอรับถ่ายทอดความรู้ได้ โดยเราจะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนําให้ ความรู้ และสอนวิธีการให้ทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำคือการเลี้ยง กลางน้ำ คือการแปรรูป และปลายน้ำ คือการทําตลาด สําหรับผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มต่าง ๆ แปรรูปออกมานั้น นอกจากจะมีการนํามาวางจําหน่ายที่อาคารสิริพัฒนภัณฑ์ ด้านหน้าศูนย์ฯ คุ้งกระเบนแล้ว ยังมีจําหน่ายที่ร้านฟิชเชอร์แมนชอป ร้านภัทรพัฒน์ และสามารถสั่งซื้อผ่าน ช่องทางออนไลน์ได้ด้วย” กัญญารัตน์ กล่าว

อัญชลี คมปฏิภาณ

ด้าน อัญชลี คมปฏิภาณ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประมง ผู้รับผิดชอบโครงการเพาะเลี้ยง สาหร่ายผักกาดทะเล ประจําศูนย์ฯ คุ้งกระเบน กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ฯ คุ้งกระเบนมีหน้าที่ศึกษา วิจัย ทดลอง และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงผู้ที่สนใจ แต่เกษตรกรในพื้นที่จะมีข้อได้เปรียบเพราะอยู่ใน สภาพแวดล้อมเดียวกัน จึงไม่จําเป็นต้องไปปรับหรือลองผิดลองถูกด้านการเลี้ยงอีก โดยทางศูนย์ฯ ยังมีการ ถ่ายทอดความรู้ด้านการแปรรูปพื้นฐานควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เกษตรกรสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ซึ่งโดยปกติ สาหร่ายผักกาดทะเลจะมีราคารับซื้อสดอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 500 บาท แต่เมื่อนํามาแปรรูปเป็นสาหร่าย ผักกาดทะเลอบแห้งจะมีมูลค่าสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 5,000 บาท

“เรามีการถ่ายทอดความรู้ด้านการแปรรูปให้กลุ่มต่าง ๆ ด้วย ตั้งแต่การแปรรูปขั้นพื้นฐานอย่างการ อบแห้ง และการทําเครื่องดื่มน้ําสาหร่าย ไปจนถึงการแปรรูปที่มากขึ้นเป็นอาหารเมนูต่าง ๆ เช่น ขนมจีบกุ้ง สาหร่ายผักกาดทะเล ต้มจืดสาหร่ายผักกาดทะเล ปอเปี๊ยะสาหร่ายผักกาดทะเลทอด เป็นต้น รวมถึงการสนับสนุน ให้แปรรูปผลิตภัณฑ์ขั้นสูง โดยเราจะมีพื้นที่อาคารสิริพัฒนาภัณฑ์ เป็นร้านตัวแทนจําหน่ายให้ ซึ่งในปีหนึ่ง ๆ เรา ต้องรองรับคณะที่มาศึกษาดูงานประมาณ 8 แสน ถึง 1 ล้านคน จึงเป็นหน้าร้านที่ช่วยกระจายและประชาสัมพันธ์ สินค้าได้เป็นอย่างดี เพราะก่อนกลับบ้านทุกคนก็มักจะต้องมาแวะซื้อของฝาก” อัญชลี กล่าว

สุภิดา ลิ้นทอง

ขณะที่ สุภิดา ลิ้นทอง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจันทราบุรี@ปากน้ำแหลมสิงห์ หนึ่งในกลุ่มเกษตรกร ที่เลี้ยงและแปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเลจนประสบความสําเร็จ สามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้สูงถึงหลักล้าน บาทต่อปี กล่าวเสริมว่า กลุ่มได้เริ่มต้นเลี้ยงสาหร่ายทะเลในถังไฟเบอร์กลาสขนาด 500 ลิตร จํานวน 8 ใบ โดยใช้ เวลาเลี้ยงเพียง 3 สัปดาห์ ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ประมาณ 20 กิโลกรัม สามารถสร้างรายได้ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน

ต่อมาจึงมีการขยายการผลิต และนําผลผลิตมาแปรรูปเป็นสาหร่ายอบแห้ง ซึ่งถือเป็น วัตถุดิบพื้นฐานในการนําไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสูงต่อไป โดยปัจจุบันกลุ่มมีผลิตภัณฑ์แปรรูปที่หลากหลายกว่า 10 รายการ เช่น สาหร่ายผักกาดทะเลตากแห้ง บะหมี่สาหร่ายผักกาดทะเล บะหมี่สาหร่ายผักกาดทะเลพร้อมผง ปรุง 6 รสชาติ ผักม้วนสาหร่ายผักกาดทะเล พาสต้าสาหร่ายผักกาดทะเล เซรั่มบํารุงผิวหน้าผสมสารสกัดจาก สาหร่ายผักกาดทะเล แชมพู ครีมนวดผม เจลอาบน้ำ โลชั่นบํารุงผิวกายผสมสารสกัดจากสาหร่ายผักกาดทะเล เป็นต้น โดยมีตลาดหลักเป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาศึกษาดูงาน และการขายผ่านระบบออนไลน์มีมูลต่าปีละเป็นเลข 8 หลัก (ล้าน)  และเร็ว ๆ นี้ยังเตรียม ที่จะส่งออกด้วยคาดจะได้เลข 9 หลักแน่นอน

                                                                           รัชดาภา จําปาศรี

ส่วน รัชดาภา จําปาศรี ประธานกลุ่มหอยนางรมครบวงจรคุ้งกระเบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอาคารแปรรูปที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. กล่าวถึงการเลี้ยงและแปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเล ว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้และพลิกฟื้นฐานะให้กับครอบครัวและสมาชิก ภายหลังเจอสถานการณ์วิกฤติในช่วงโควิด-19 ทําให้ธุรกิจซบเซาลงอย่างมาก โดยกลุ่มมองเห็นโอกาสและได้เริ่มเลี้ยง พร้อมการแปรรูปเป็นสาหร่ายอบแห้ง และเครื่องดื่มน้ำสาหร่าย ซึ่งจากความพร้อมในด้านสถานที่แปรรูปก็ทําให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น น้ำพริก และขนมกรุบกรอบต่าง ๆ โดยมีตลาดหลักในช่วงแรกคือร้านภัทรพัฒน์ และจําหน่ายที่อาคารสิริพัฒนภัณฑ์ ส่วนในปัจจุบันมีการจําหน่ายทางช่องทางออนไลน์เพิ่มเติมด้วย