
รองนายกฯ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” สั่งเข้มรับมือพื้นที่เสี่ยงท่ วม 24 – 28 ส.ค. หลังพายุ ดีเปรสชันบริเวณหัวเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ ตอนบน และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้ นเป็นพายุโซนร้อน ก่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวี ยดนามและประเทศลาวตอนบน รวมถึงประเทศไทย ย้ำทุกพื้นที่เตรียมพร้อมรั บฝนตกหนัก – น้ำทะเลหนุน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทั ลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ (กนช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน หลังได้รับรายงานสถานการณ์พายุ ดีเปรสชันบริเวณหัวเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ที่คาดว่าจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ ตอนบนในคืนนี้ และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้ นเป็นพายุโซนร้อน ก่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวี ยดนามและประเทศลาวตอนบน ส่งผลให้ช่วงวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้ นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนื อตอนบน และภาคเหนือ เสี่ยงประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง
ดังนั้นจึงได้สั่งการให้สำนักงานทรั พยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศแจ้งเตือนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้ องเตรียมความพร้อมรับมื อสถานการณ์ดังกล่าวล่วงหน้า โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยประสบอุ ทกภัยมาก่อนหน้านี้ต่างเร่งเตรี ยมความพร้อมเพื่อรับมือฝนชุ ดใหม่ ได้แก่ พื้นที่ลุ่มน้ำโขงเหนือ อยู่ระหว่างเร่งซ่อมแซมพนังกั้ นน้ำในแม่น้ำสาย จังหวัดเชียงราย ที่เป็นจุดเสี่ยงอุทกภัย คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้ งหมดภายในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ พื้นที่ลุ่มน้ำยม การดำเนินการซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ ในจังหวัดสุโขทัยแล้วเสร็จทุกจุ ด
ในขณะที่พื้นที่ลุ่มน้ำน่านยั งต้องมีการเร่งพร่องระบายน้ำ ในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำมาก โดยปัจจุบันเขื่อนสิริกิติ์มี ปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก ขณะนี้มีการระบายน้ำจากเขื่ อนในอัตรา 45 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน อย่างไรก็ตาม จะมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่ อเนื่องและปรับอัตราการระบายน้ำ ให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงเวลา
ในส่วนของสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้ าพระยา ปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยามี การระบายน้ำอยู่ที่อัตรา 1,200 ลบ.ม. ต่อวินาที ส่งผลให้มีน้ำเอ่อท่วมในพื้นที่ ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบางแห่ งของจังหวัดอ่างทอง และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการนี้ กรมชลประทานมีการแจ้งเตือนข้อมู ลการระบายน้ำให้ประชาชนในพื้นที่ ได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ในระยะนี้ได้สั่งการให้เฝ้าระวั งเป็นพิเศษในพื้นที่ลุ่มต่ำริ มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง รวมถึงชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวที่ไม่มี แนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) บริเวณจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม เนื่องจากคาดว่าจะมีน้ำทะเลหนุ นสูงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่ มขึ้นและอาจเอ่อล้นเข้าท่วมพื้ นที่ ในช่วงวันที่ 20 – 26 สิงหาคม 2568 โดย สทนช. ได้ประกาศแจ้งเตือนให้หน่ วยงานเตรียมการล่วงหน้าแล้ว
จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ ยวข้องปรับการบริหารจัดการน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ โดยคำนึงถึงอิทธิพลของการขึ้น – ลงของระดับน้ำทะเล รวมถึงติดตามสถานการณ์ของแหล่ งเก็บกักน้ำในพื้นที่เสี่ยงที่ มีปริมาณน้ำมากอย่างใกล้ชิด และให้เร่งกำจัดสิ่งกี ดขวางทางน้ำเพื่อให้การระบายน้ำ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบและซ่อมแซมแนวคันบริ เวณริมแม่น้ำที่ชำรุดเสียหายให้ สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ โดยเร็ว
ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานร่วมบู รณาการกันอย่างเต็มที่เพื่ อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพี่ น้องประชาชน จากสถานการณ์ฝนตกหนักตลอดช่ วงฤดูฝนที่เหลือ รวมทั้งเน้นย้ำความสำคั ญของการแจ้งเตือนสถานการณ์ให้มี การเตรียมรับมือได้อย่างทันท่ วงที เพื่อลดการสูญเสียในชีวิตและทรั พย์สินให้ได้มากที่สุด