เพิ่มโควตารับซื้อปลาหมอคางดำอีก 554,000 กิโลกรัม 


กรมประมง สรุปยอดการรับซื้อปลาหมอคางดำ ภายใต้งบฯ 97,817,400 บาทใกล้ถึง 3 ล้านกิโลกรัมแล้วในพื้นที่ 14 จังหวัด ล่าสุดมีการเพิ่มโควตาอีก 554,000 กิโลกรัม 

นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลจัดงบกลางเร่งด่วน เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ สำนักงบประมาณได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณ จำนวน 97,817,400 บาท ให้แก่กรมประมง เพื่อให้เร่งแก้ไขปัญหา ภายใต้ 2 มาตรการหลัก คือมาตรการการควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด จำนวน 89,045,456 บาท

อีกหนึ่งมาตรการคือการนำปลาหมอคางดำที่กำจัดออกจากระบบนิเวศไปใช้ประโยชน์ จำนวน 8,771,944 บาท กรมประมงได้ดำเนินการจัดสรรโควตาให้กับทางจังหวัด เพื่อรับซื้อปลาหมอคางดำตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 ผ่านจุดรับซื้อในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา แบ่งเป็นราคารับซื้อปลาหมอคางดำ 15 บาท/กิโลกรัม (จ่ายให้กับชาวประมงหรือผู้จับปลา มาขาย) และราคาค่าขนส่งและค่าบริหารจัดการรวบรวม 5 บาท/กิโลกรัม (จ่ายให้กับผู้รวบรวมหรือแพปลาที่เข้าร่วมโครงการฯ)

ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมา กรมประมงได้รับซื้อปลาหมอคางดำจากบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรและจากธรรมชาติ              โดยได้จัดส่งให้กรมพัฒนาที่ดินและการยางแห่งประเทศไทยนำไปผลิตเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อในภาคเกษตร รวมแล้วกว่า 2,897,999 กิโลกรัม จากเป้าหมายเดิม 3,000,000 กิโลกรัม และขณะนี้มีการเพิ่มโควตาอีก 554,000 กิโลกรัม

สำหรับจังหวัดที่จำนวนโควตารับซื้อปลาหมอคางดำเต็มแล้ว และจากการสำรวจยังพบปลาหมอคางดำตกค้างอยู่ในพื้นที่อีกพอสมควร รวมเป็นเป้าหมายใหม่ 3,554,000 กิโลกรัม (ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568) มีรายละเอียดดังนี้

1. สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 170,000 กิโลกรัม สามารถเริ่มรับซื้อโควตาเพิ่มเติมได้ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568,2. สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 50,000 กิโลกรัม, 3. สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 184,000กิโลกรัม เริ่มรับซื้อโควตาเพิ่มเติมแล้ว เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568

4. สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 100,000 กิโลกรัม เริ่มรับซื้อโควตาเพิ่มเติมแล้ว เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568,5. สำนักงานประมงจังหวัดเพชรบุรี ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 30,000 กิโลกรัม,6. สำนักงานประมงจังหวัดชุมพร ได้รับการจัดสรรโควตาการรับซื้อเพิ่ม 20,000 กิโลกรัม เริ่มรับซื้อโควตาเพิ่มเติมแล้ว เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568

อย่างไรก็ตาม สำหรับจังหวัดที่มีโควตารับซื้อเหลืออยู่และจังหวัดที่ได้รับโควตาเพิ่มนั้น เกษตรกร ประชาชน ยังสามารถนำปลาหมอคางดำมาขายได้ต่อไปจนกว่าจะเต็มจำนวนตามที่กำหนด หรือถึงวันที่ 30 กันยายน 2568 เว้นแต่จังหวัดนครปฐมและจังหวัดราชบุรี ที่มีการยุติการรับซื้อ เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่พบว่ามีการระบาดค่อนข้างเบาบาง ไม่มีปริมาณปลาหมอคางดำมากพอที่จะนำมาขายให้กับแพปลาผู้รวบรวม รวมถึงเกษตรกร ประชาชนในพื้นที่มีการนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือน ทั้งนี้ หากเกษตรกรหรือประชาชนต้องการขายปลาหมอคางดำสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่

สำหรับกรณีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มีการประกาศเขตภัยพิบัติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน และเขตทุ่งครุ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบจำนวน 726 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับความเสียหาย จำนวน 3,511.31 ไร่ วงเงินความเสียหาย 41,297,575 บาท สำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการเเพร่ระบาดของปลาหมอคางดำนั้น การประกาศเขตภัยพิบัติยังคงเป็นอำนาจของทางจังหวัด ซึ่งจะต้องตรงตามหลักเกณฑ์ที่กรมประมงได้เสนอผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย