นำร่องทำพวงมาลัยมูลค่าสูงจากเกษตรแปลงใหญ่ ขายผ่านแอปฯเซเว่นฯ

กรมส่งเสริมเกษตร หนุนเกษตรกรนำร่องทำพวงมาลัยมูลค่าสูงจากเกษตรแปลงใหญ่ “พวงมาลัยร้อยสลักรัก” พร้อมจับมือซีพี ออลล์ จำหน่ายสินค้าผ่านแอปพลิเคชันของร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น สามารถสั่งออนไลน์ สื่อรักง่ายๆ ได้ทุกวัน

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า อัตลักษณ์ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของคนไทย นับเป็นสิ่งที่ชาวต่างชาติหรือสากลให้ความสนใจ ซึ่งหนึ่งในความอ่อนช้อยสวยงามแบบไทยคือ “พวงมาลัยร้อยสลักรัก” ที่มีการร้อยด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด และหนึ่งในไม้ดอกไม้ประดับชนิดสำคัญ ได้แก่ กล้วยไม้ สามารถนำมาร้อยมาลัยได้อย่างงดงาม

พีรพันธ์ คอทอง

กรมส่งเสริมการเกษตร จึงสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้ที่มีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนพัฒนาสินค้าเกษตรของตนสู่สินค้าเกษตรมูลค่าสูง จนเกิดเป็นการนำร่องผลิตภัณฑ์พวงมาลัยกล้วยไม้จากกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่กล้วยไม้ หมู่ 2 ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับหน่วยงานพาคีภาคเอกชน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เพื่อจำหน่ายสินค้าผ่านแอปพลิเคชันของร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น-อีเลฟเว่น)

ทั้งนี้ ลูกค้าหรือผู้ที่สนใจสั่งซื้อพวงมาลัยในโอกาสหรือเทศกาลต่าง ๆ เช่น วันแม่แห่งชาติปีนี้ สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ง่าย ๆ ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือสมาร์ทโฟน เพียงเข้าแอพพลิเคชั่นร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น แล้วพิมพ์คำว่า “พวงมาลัยกล้วยไม้” ในช่องค้นหา ก็จะปรากฏภาพพวงมาลัยกล้วยไม้รูปแบบต่าง ๆ ให้เลือกซื้อตามความชอบ

ขณะนี้มีพวงมาลัยกล้วยไม้ให้เลือก 3 รูปแบบ คือ พวงมาลัยดรีมผกา พวงมาลัยศรีอุษา และพวงมาลัยร้อยสลักรัก เมื่อเลือกแล้วให้กรอกข้อมูลที่อยู่สำหรับจัดส่ง เลือกวิธีการรับสินค้า กดสั่งซื้อและเลือกวิธีชำระเงินได้ตามต้องการและรอรับสินค้าได้ตามขั้นตอนการรับสินค้าที่เลือกไว้

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กล้วยไม้นับเป็นหนึ่งในสินค้าเศรษฐกิจที่สำคัญด้านการเกษตรของไทย ปัจจุบันประเทศไทยมีเกษตรกรผู้ปลูกเลี้ยงกล้วยไม้ประมาณ 1,400 ราย มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 15,823 ไร่ เพื่อป้องกันผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจของไทยและเศรษฐกิจโลกที่อาจก่อให้เกิดการถูกกีดกันทางการค้า การกดราคาของประเทศคู่ค้า และการเพิ่มขึ้นของประเทศคู่แข่ง กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานและบริการมูลค่าสูง ปี 2568

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกร ตามนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และ “ยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น