กรมส่งเสริมการเกษตร สั่งหน่วยงานในสังกัดทุกระดับ เร่งเข้าสู่โหมดการปฏิบัติตัวในช่วงเตรียมพร้อมในการป้องกันความเสียหายต่อพื้นที่และผลผลิตทางการเกษตรจากภัยน้ำท่วม พร้อมเชิญชวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการช่วยเหลือกรณีประสบภัยพิบัติ
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีการเตรียมความพร้อมทุกหน่วยงานในสังกัด ทั้งระดับเขต จังหวัด อำเภอ และตำบล เร่งเข้าสู่โหมดการปฏิบัติตัวในช่วงเตรียมพร้อม
และตอบสนองอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันความเสียหายต่อพื้นที่และผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งลดผลกระทบ
ต่อเกษตรกรในพื้นที่เสี่ยง เพื่อรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นกับเกษตรกร ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อลดผลกระทบภาคเกษตรให้มากที่สุด
พีรพันธ์ คอทอง
ทั้งนี้เกษตรกรควรเร่งรัดแจ้งขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการช่วยเหลือกรณีประสบภัยพิบัติ ไม่เพียงแต่ช่วยให้รัฐสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างตรงเป้าแต่ยังทำให้เกษตรกรเข้าถึงบริการที่เหมาะสม เช่น การส่งเสริมความรู้ด้านการผลิต การตลาด การใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อการจัดการพืช การเชื่อมต่อระบบการผลิตและการรับรองมาตรฐานรายสินค้า การบริการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือการประเมินความเสี่ยงในพื้นที่อย่างแม่นยำ เป็นต้น โดยสามารถเลือกเข้ารับบริการผ่านช่องทางการบริการของรัฐได้ 3 ช่องทาง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่
1. แจ้งข้อมูลด้วยตนเองที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หรือจุดให้บริการที่เจ้าหน้าที่ประกาศไว้, 2. ผ่านเว็บไซต์ http://efarmer.doae.go.th (e-Form) ด้วยตนเอง, และ 3. ผ่านแอปพลิเคชัน FARMBOOK (เฉพาะเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม) ซึ่งการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น หากมีผู้แอบอ้างหรือเรียกรับผลประโยชน์ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอทันที และหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่จะไม่ทำการส่งข้อความให้เกษตรกรเพื่อให้ดำเนินการขอให้เกษตรกรอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพหลอกลวง แอบอ้างอำนวยความสะดวกผ่านช่องทางโทรศัพท์หรือไลน์
“กรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง ดำเนินการเร่งรัดให้เกษตรกรขึ้นทะเบียน
และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงสิทธิประโยชน์และเป็นฐานข้อมูลในการขอรับความช่วยเหลือต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึงและทันท่วงที โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภัยพิบัติ และขอให้เกษตรกรติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งเตรียมการป้องกันความเสียหายจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งไว้ล่วงหน้า และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว