กรมปศุสัตว์ สวมบทเสือปืนไว เร่งจ่ายค่าวัวเสียชีวิตเหยื่อกระสุนปืนใหญ่เขมรของเกษตรกรตัวละสูงสุด 3.5 หมื่นบาท

กรมปศุสัตว์ เร่งช่วยเกษตรกรตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ เบื้องต้นวัวที่เสียชีวิตเหยื่อกระสุนปืนใหญ่เขมรอายุเกิน 2 ปีตัวละ 3.5 หมื่นบาท ไม่เกิน 22,000 บาท  พร้อมมอบหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์ รวม 700 ก้อน 

รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งด่วนให้กรมปศุสัตว์ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ โดยมีการจัดส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ล่าสุดสำรวจความเสียหาย มีวัวตาย 3 ตัว จากกระสุนปืนใหญ่ตก เตรียมพร้อมจ่ายค่าเยียวยาตามระเบียบการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้รับข้อสั่งการให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และดูแลสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยได้ระดมกำลังจากสำนักงานปศุสัตว์ในจังหวัดชายแดนเพื่อส่งหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์เข้าสนับสนุนในระยะเผชิญเหตุ

                                                            น.สพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์

ล่าสุด สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์รายงานว่า พื้นที่อำเภอบ้านกรวดซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงโค-กระบือขนาดใหญ่ รวมกว่า 21,452 ตัว (โค 17,313 ตัว และกระบือ 4,139 ตัว) ได้รับผลกระทบจากลูกกระสุนปืนใหญ่ตกหลายจุด ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ได้แก่ บ้านสายโท 10 (ใต้) หมู่ 2 ตำบลสายตะกู 10 ลูก บ้านกรวด หมู่ 3 และหมู่ 5 ตำบลบ้านกรวด 7 ลูก และบ้านสายโท 12 (ใต้) หมู่ 16 ตำบลสายตะกูอีก 3 ลูก

จากการตรวจสอบพบความเสียหายต่อบ้านเรือน 2 หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และสัตว์เลี้ยงตาย 5 ตัว ประกอบด้วยวัว 3 ตัวและไก่ 2 ตัว ซึ่งเป็นของนางโจทย์ คิดประโคน บ้านเลขที่ 130 หมู่ 5 บ้านกรวด ตำบลบ้านกรวด โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการฝังกลบซากสัตว์เรียบร้อย พร้อมให้คำแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับการขอรับการเยียวยาตามเกณฑ์ทางราชการ

ทั้งนี้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ได้มอบหญ้าแห้งและพืชอาหารสัตว์ รวม 700 ก้อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และจะเร่งประเมินความเสียหายเพื่อจ่ายค่าเยียวยาเกษตรกรตามระเบียบ โดยสำหรับโคอายุมากกว่า 2 ปี จะชดเชยตัวละ 35,000 บาท และลูกโคอายุ 6 เดือน – 1 ปี ตัวละ 22,000 บาท

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวอีกว่า  เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงความจำเป็นของการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบ ทั้งจากธรรมชาติและเหตุการณ์ไม่คาดคิด พร้อมยืนยันว่ากรมปศุสัตว์จะดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรและดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติในเร็วที่สุด

ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง./