พิศูจน์ รัตนวงศ์
กมธ.ท่องเที่ยวกีฬา วุฒิสภา เล็งหาแนวทางแกัปัญหา “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ไปไม่ถึงไหน ข้องใจเหตุใดจึงไม่ใช้แอปฯ “เป๋าตังค์” ของเก่าดีอยู่แล้ว เตรียมเชิญ รมว.การท่องเที่ยวฯ “สรวงศ์ เทียนทอง” เร่งมาชี้แจงโดยด่วน เผยผู้ประกอบการโอดพิษโครงการเบิกเงินยาก ไม่กล้าร่วม แถมผวาภาษีตามหลังมาด้วย
วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นายพิศูจน์ รัตนวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหาโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่ยังคงเป็นปัญหาคาราคาซังมานานเกือบ 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะการตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่า เหตุใดจึงไม่นำแอปพลิเคชัน “เป๋าตังค์” ที่เคยประสบความสำเร็จจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” กลับมาใช้ ทั้งที่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้หมดแล้ว แต่กลับไปจ้างบริษัทใหม่มาดำเนินการจนเกิดความติดขัดอย่างหนัก
ด้านนายจำลอง อนันตสุข โฆษกคณะกรรมาธิการ กล่าวแสดงความเป็นห่วงว่า “แอปพลิเคชัน ‘เป๋าตังค์’ ที่เคยใช้ในโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ก็ได้รับการแก้ไขจนปัญหาต่างๆ หมดแล้ว ทำไมไม่เอามาใช้ ทำไมไม่ต้องไปจ้างบริษัทใหม่มาทำโครงการ ‘เที่ยวคนละครึ่ง’ เราก็ต้องตั้งเป็นคำถามรัฐบาลว่ามันเพราะอะไร แล้วเวลานี้มันก็ยังใช้ไม่ได้ ใช้ได้ก็กระท่อนกระแท่นเต็มที่ ผ่านมาแล้วประมาณเกือบ 2 อาทิตย์เนี่ย ทำไมเรื่องนี้มันยังไม่จบ ยังแก้ไขไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ก็ไปเอากระเป๋าตังค์มาใช้
“ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ โดยพบข้อมูลว่า ตั้งแต่โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ยังเบิกเงินไม่ได้ ของเก่ายังไม่ได้เลย โครงการใหม่ก็เลยไม่มีใครเขาอยากลง เพราะมันเบิกเงินไม่ได้” นอกจากนี้ ยังมีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการบางรายที่ไม่กล้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเลย เพราะนอกจากจะกลัวเบิกเงินไม่ได้แล้ว ยังกังวลเรื่องภาษีอีกด้วย” นายจำลอง กล่าว
นอกจากนี้คณะกรรมาธิการฯ ยังตั้งข้อสังเกตว่า โครงการนี้ไม่ได้สอดรับกับนโยบายของรัฐที่ควรจะดีกว่านี้ เนื่องจากเป็นการดำเนินการโดยรัฐบาล แต่การกรอกข้อมูลและแบบฟอร์มต่างๆ ก็ทำได้ยาก ที่สำคัญคือ ก่อนหน้านี้โครงการไม่มีการโฆษณา แจ้งเตือน หรือประชาสัมพันธ์ใดๆ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างการลงทะเบียนของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการเตรียมเชิญนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้ามาเร่งชี้แจงโดยด่วน เนื่องจากปัญหานี้เกิดขึ้นมานานกว่าสองสามสัปดาห์แล้ว และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศ