กรมประมงสกัดจับผู้ลักลอบนำเข้าปลากะพงขาว จำนวน 7,536 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6 แสนบาท ได้ที่ด่านสุไหงโกลก ตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตนำเข้า ถือเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 92 แห่ง พรก.ประมง 2558
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากการที่กรมประมงได้ยกระดับความเข้มข้นในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกสินค้าประมงผิดกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการตรวจสอบเฝ้าระวังการนำเข้าปลากะพงขาวเพื่อป้องกันปลากะพงขาวที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งในเรื่องของสารตกค้างและป้องกันโรคเข้าสู่ประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการทะลักเข้ามาของปลากะพงขาวจนกระทั่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตปลากะพงขาวภายในประเทศด้วย
บัญชา สุขแก้ว
ที่ผ่านมา กรมประมงจึงได้มีการออกคำสั่งกรมประมง ที่ 466/2568 แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจป้องกันปราบปรามการลักลอบสัตว์น้ำเข้ามาในราชอาณาจักรตามเขต 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำปลากะพงขาวและสัตว์น้ำอื่น ๆ เข้ามาในราชอาณาจักรทางพื้นที่จังหวัดสงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 16.30 น. นายณพลพัทธ์ รัชกุลวงษ์เจริญ หัวหน้าด่านตรวจประมงนราธิวาส ได้รับแจ้งข่าวว่ามีการลักลอบนำเข้าปลากะพงขาวจากประเทศมาเลเซีย จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบบริเวณท่าปาดังญอ หมู่ที่ 3 ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มูโนะ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์นราธิวาส เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสุไหงโกลก โดยที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อ ISUZU หมายเลขทะเบียน 70-1515 ยะลา
เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบภายในรถบรรทุก พบปลากะพงขาวบรรจุในกล่องโฟม จำนวน 157 กล่อง น้ำหนักกล่องละประมาณ 48 กิโลกรัม รวมทั้งสิ้น 7,536 กิโลกรัม มูลค่ารวมประมาณ 600,000 บาท ไม่มีใบอนุญาตนำเข้า ถือเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 92 แห่ง พรก.ประมง 2558 นำเข้าสินค้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, มาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 นำสัตว์หรือซากสัตว์เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้จัดทำบันทึก และเก็บรักษาของกลางไว้ที่ สภ.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป