โดย…ดลมนัส กาเจ
ถึงฤดูกาลเพาะปลูกกันแล้ว โดยเฉพาะพืชที่ต้องอาศัยน้ำฝน จะนิยมปลูกกันในช่วงนี้รวมการปลูกยางพาราด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศันน้ำฝนล้วนๆ ซึ่งหลังจากปลูกแล้วธรรมชาติให้รดน้ำให้
อย่างไรก็ถ้าเกษตรกรต้องการปลูกยางพาราให้ได้เวลากรีเร็วขึ้น และมีอัตรอดที่สูง จำเป็นต้องเลือกต้นกล้าที่ดีด้วย ซึ่งปกติการขยายพันธุ์ยางพารา ที่นิยมกันมีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน คือ ติดตาเขียว ชำถุง และบัดดิ้ง
นายขำ อนุชิตศิริภัทรา เจ้าของพันธุ์ยาง KT 311 ที่บ้านสุโซ๊ะ อ.ปะเลียน จ.ตรัง และนายกสมาคมชาวสวนยางพาราจังหวัดตรัง (ตลอดกาล) บอกว่า ในบรรดา 3 วิธีนี้ ต้นกล้ายางที่ขยายพันธุ์แบบ “บัดดิ้ง” ดีที่สุด
การขยายพันธุ์ยางแบบ บัดดิ้ง ก็คือเอาเมล็ดยางพาราจากต้นแม่ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีไปเพาะในถุง 3 เมล็ด พองอกแล้วเลือกเอาต้นที่สมบูรณ์ที่สุด 1 ต้น แล้วนำมาติดตายางพีนธุ์ดี แบบนี้เรียกว่า “บัดดิ้ง”
สาเหตุที่บอกว่ากรีดได้เร็ว และอัตรารอดสูงนั้น กล้ายางพาราที่ขยายแบบบัดดิ้งมีรากแก้วที่แข็งแรง เวลาปลูกเอาออกจากถุงไม่ต้องตัดรากแก้วเหมือนกันต้นกล้าพันธุ์ที่ติดตาเขียว และชำถุง นำไปปลูกได้เลย ที่สำคัญต้นที่เลิอกปลูกอายุเกือบ 1 ปี หรือสูงเทียมอก
นายขำ บอกอีกว่า ปกติถ้าเป็นยางพาราพันธุ์ KT311 ซึ่ง 5 ปีกรีด ได้แต่เนื่องการบัดดิ้งเพาะในถุงอยู่แล้ว 1 ปี เท่ากับอายุต้นยาง 1 ปี ฉะนั้นหลังจากลงหลุมปลูก 4 ปี ก็สามารถกรีดได้แล้ว เช่นเดียวกัยพันธุ์อื่นก็จะร่อนอายุการกรีดลง 1 ปีเช่นกัน (ชมในคลิป)