
กรมวิชาการเกษตร ขยายผล 7 ฝ้ายพันธุ์ดี พร้อมสร้างชุมชนต้ นแบบ ที่ใช้ “เทคโนโลยีการผลิตฝ้ายและคราม เสริมสร้างอัตลักษณ์ผ้าทอมืออี สาน สร้างสรรค์เศรษฐกิจชุมชน” 15 กลุ่ม ในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคอีสาน ทำให้ชุมชนผ้าทอมืออีสาน สร้างรายได้ปีละกว่า 3 แสนบาท
นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะโฆษกกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เพื่อสร้างรายได้ สร้างโอกาส และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้ เกษตรกรไทย ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหก รณ์ ได้มอบหมายให้สำนักวิจัยและพั ฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จังหวัดขอนแก่น ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาสินค้ าเกษตรอัตลักษณ์ผ้าฝ้ายและผ้าย้ อมครามพื้นเมืองที่มีชื่อเสี ยงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉี ยงเหนือตอนบน

ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง
โดยให้นำผลงานวิจัยการผลิตฝ้ ายพันธุ์ดีที่มีเอกลักษณ์ของศู นย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ ได้แก่ ฝ้ายเส้นใยสีน้ำตาล พันธุ์ตากฟ้า 3 พันธุ์ตากฟ้า 6 และพันธุ์ตากฟ้า 8 ฝ้ายเส้นใยยาวสีขาว พันธุ์ตากฟ้า 2 พันธุ์ตากฟ้า 7 และพันธุ์ตากฟ้า 84-4 ฝ้ายเส้นใยสีเขียว พันธุ์ตากฟ้า 86-5 พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีการผลิ ตครามที่ให้ปริมาณและคุณภาพเนื้ อครามสูง ของศูนย์วิจัยและพั ฒนาการเกษตรสกลนคร มาขยายผลต่อยอดในพื้นที่เพื่ อให้เกษตรกรนำไปปลูกและแปรรู ปเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรอัตลั กษณ์
ด้านนายไกรสิงห์ ชูดี ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพั ฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า คณะนักวิจัยสำนักวิจัยและพั ฒนาการเกษตรเขตที่ 3 และศูนย์เครือข่ายในจังหวัดต่าง ๆ ได้นำพันธุ์ฝ้ายพันธุ์ดีทั้ง 7 พันธุ์ เทคโนโลยีการผลิตฝ้ายและคราม รวมถึงการแปรรูปฝ้ายและครามไปถ่ ายทอดองค์ความรู้ให้กั บเกษตรกรผู้ปลูกฝ้ ายและครามในเขตภาคตะวันออกเฉี ยงเหนือตอนบน

ด้วยการสร้างชุมชนต้ นแบบในโครงการ “เทคโนโลยีการผลิตฝ้ายและคราม เสริมสร้างอัตลักษณ์ผ้าทอมืออี สาน สร้างสรรค์เศรษฐกิจชุมชน” จำนวน 15 กลุ่ม สมาชิกกว่า 639 ราย ในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม หนองคาย มุกดาหาร เลย สกลนคร หนองบัวลำภู และอุดรธานี ทำให้แต่ละกลุ่มมีเงินหมุนเวี ยนตั้งแต่ 1,100-300,000 บาทต่อปี นอกจากนี้ ยังถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านกิ จกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ผลิ ตและกลุ่มผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ จากฝ้ายและครามอีกจำนวน 100 รายด้วย
ทั้งนี้ เกษตรกรในเขตพื้นที่ภาคตะวั นออกเฉียงเหนือตอนบนให้ ความสนใจพันธุ์ฝ้ายเส้นใยสีน้ำ ตาลสีเขียว และสีขาวของกรมวิชาการเกษตร ด้วยมีคุณลักษณะที่โดดเด่น คือ ฝ้ายเส้นใยสีน้ำตาลและสีเขี ยวไม่ต้องย้อมสี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถนำไปทอเป็นผืนผ้าได้ทันที ทั้งแบบสีพื้นและแบบสลับสีส่ วนฝ้ายเส้นใยสีขาว จะได้เส้นใยที่มีคุ ณภาพเหมาะสำหรับทำผ้าทอย้อมสี ธรรมชาติ เช่น สีคราม สีเปลือกไม้ และสีหินธรรมชาติ มีกรรมวิธีขั้นตอนการผลิตที่เป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้ได้ผ้าทอย้อมสีธรรมชาติที่ เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น

“สำหรับครามสามารถผลิตเป็นเนื้ อครามที่ใช้ย้อมสีผ้าฝ้ายไว้ จำหน่ายโดยสามารถแปรรูปเป็นผลิ ตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ เสื้อ ผ้าถุง ผ้าคลุมไหล่ ผ้าห่ม ผ้าพันคอ หมวก กระเป๋า ปลอกหมอน และผ้าปูที่นอน ส่งผลให้เกษตรกรสามารถสร้างอาชี พเป็นรายได้หลักให้กับตนเองได้ และเกิดชุมชนต้นแบบเทคโนโลยีผลิ ตฝ้ายพันธุ์ดีและคราม สร้างรายได้สินค้าเกษตรอัตลั กษณ์ผ้าทอมืออีสานกว่า 3 แสนบาทต่อปี ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอี ยดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิจัยและพั ฒนาการเกษตรเขตที่ 3 โทรศัพท์ 0 4320 3500 หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนื อตอนบนทั้ง 8 ศูนย์” นายไกรสิงห์ กล่าว