กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ วุฒิสภา เล็งขยายผลสอบน้องชาย นายก อบต.ยันยิงช้างผิด กม.

                                                      ชีวะภาพ ชีวะธรรม

ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติฯ วุฒิสภา ยืนยันยิงช้างผิดกฎหมาย เข้าข่ายพยายามล่าสัตว์ เตรียมขยายผลสอบน้องชาย นายก อบต. ชี้แม้จะเป็นในที่ดินของตัวเองก็มีความผิด 

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 68 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวถึงกรณี “พลายเบี่ยงเล็ก” ถูกน้องชาย นายก อบต. ใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่ขับไล่ออกจากพื้นที่ แต่คาดว่ากระสุนตกถูกบั้นท้ายเป็นแผล 2 รู เหตุเกิดที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า การผลักดันหรือขับไล่ช้างป่า ต้องเป็นไปตามหลักวิชาการ ระเบียบ และกฎหมายเท่านั้น การใช้ปืนยิงช้างถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ป่าสงวน

“การใช้ปืนยิงไล่ช้าง อาจเข้าข่ายข้อหาพยายามจะล่าช้าง คล้ายกับข้อหาพยายามฆ่าของมนุษย์ โดยเฉพาะการยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นความผิดตามกฎหมายชัดเจน” นายชีวะภาพ กล่าวและว่า กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชมีแผนปฏิบัติการหลายขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่เกษตรกรรมอยู่แล้ว

เตือนยิงในที่ดินส่วนตัวก็ผิด! กมธ. เตรียมขยายผลสอบ

ส่วนประเด็นการอ้างสิทธิ์ว่ายิงในที่ดินของตนเองนั้น นายชีวะภาพกล่าวว่า ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าจุดที่ยิงเป็นที่ดินส่วนตัว หรือเป็นที่ป่าสงวน หรือที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นที่ดินในเขตป่าสงวนเดิมที่เปลี่ยนเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ก็ยังคงถือเป็นที่ดินของรัฐ หรือแม้แต่โฉนด น.ส.3 ก็ไม่มีสิทธิ์ใช้ปืนยิงช้างที่รุกล้ำเข้ามา เพราะอาจเข้าข่ายการล่าสัตว์ ซึ่งควรแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการมากกว่า

“ผมขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันติดตามนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และทางคณะกรรมาธิการฯ จะติดตามว่าจุดที่นักการเมืองท้องถิ่นใช้ปืนยิงช้างอยู่ในพื้นที่ใดกันแน่ โดยเฉพาะหากพบว่าอยู่ในเขตป่าสงวน ก็จะต้องตรวจสอบว่านักการเมืองท้องถิ่นคนนั้นได้สิทธิ์การครอบครองพื้นที่เหล่านั้นมาอย่างไร รวมถึงสาเหตุที่ช้างป่าเหล่านี้ลงมาอาศัยใกล้ที่ทำกินของชาวบ้าน” นายชีวะภาพ กล่าว

ห่วงปัญหาระบบนิเวศเสื่อมโทรมดันช้างบุกไร่ แนะปรับตัวอยู่ร่วมกัน

นายชีวะภาพ ยังกล่าวถึงอีกกรณีที่เกิดขึ้นที่ห้วยสวง อุทยานแห่งชาติทับลาน ที่มีช้างจากอุทยานฯ ลงมาในพื้นที่ชุมชน ทำให้ชาวบ้านบางส่วนกังวลและอาจออกมาขับไล่ทำร้ายช้างได้ พร้อมเตือนว่าการทำไร่ในเขต ส.ป.ก. หรือ คทช. ที่รัฐจัดสรรให้ ก็ยังคงเป็นพื้นที่ป่าที่ช้างมีวัฏจักรในการเดินทางและหากิน โดยเฉพาะพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของช้างจำนวนมาก

“วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ปัญหาด้วยการสร้างคูกั้นช้างหรือกำแพงกั้นช้าง แต่สิ่งสำคัญคือการเร่งรัดดำเนินการเยียวยาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ควบคู่ไปกับแผนป้องกันช้าง หากช้างทำลายพืชผลทางการเกษตร รัฐควรจัดงบประมาณช่วยเหลือประชาชนในระดับหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนคว้าปืนไปไล่ยิงช้างเหมือนที่เคยเกิดขึ้น”

ประธาน กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ วุฒิสภา อีกว่า  ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองและเป็นสัตว์ป่าสงวนที่ควรได้รับการดูแล ปัญหาที่ช้างลงมาทำลายพืชผลทางการเกษตรส่วนหนึ่งอาจเกิดจากระบบนิเวศที่เสื่อมโทรม หรือขาดแคลนแหล่งน้ำ จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องเร่งจัดการให้ช้างมีที่อาศัย มีแหล่งน้ำ และพืชพรรณธรรมชาติที่เหมาะสมแก่การดำรงชีวิต ตามหลักวิจัยและงานเชิงวิชาการ

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา จะนำเข้าพิจารณาศึกษาเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป.