ธ.ก.ส.-สอน.เตรียมงบฯ 5,300 ล้าน หนุนเกษตรกรตัดอ้อยสด ลด PM 2.5

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้ ธ.ก.ส. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จัดทำ “มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM2.5” สำหรับฤดูการผลิตปี 2567/2568 เพื่อส่งเสริมเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีทดแทนการเผา ลดปัญหา PM2.5  ยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจสีเขียว เตรียมงบประมาณสนับสนุนรวม 5.3 พันล้านบาท ส่งเสริมให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี ในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย  

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 มีมติมอบหมายให้ ธ.ก.ส. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จัดทำ “มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM2.5” สำหรับฤดูการผลิตปี 2567/2568 เพื่อส่งเสริมเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีทดแทนการเผา ลดปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจสีเขียว โดยการสนับสนุนเงินให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดี ในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย คาดว่า ฤดูการผลิตปี 2567/2568 จะมีปริมาณอ้อยทั้งสิ้น 93.17 ล้านตัน โดยมีสัดส่วนปริมาณอ้อยสดคุณภาพดีร้อยละ 80 หรือประมาณ 75 ล้านตัน คิดเป็นงบประมาณสนับสนุนรวมทั้งสิ้น 5,333.5875 ล้านบาท แบ่งเป็น

(1) ค่าใช้จ่ายมาตรการสร้างแรงจูงใจแก่ชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด โดยจ่ายเงินสนับสนุนแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ในอัตรา 69 บาทต่อตัน งบประมาณดำเนินการ 5,175 ล้านบาท,และ (2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของ ธ.ก.ส. ทั้งในด้านการชดเชยต้นทุนทางการเงินและค่าบริหารจัดการ รวมจำนวนเงิน 158.5875 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธ.ก.ส. พร้อมโอนเงินให้แล้วเสร็จ หลังจากที่ได้รับรายชื่อเกษตรกรจากสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาล เรียบร้อยแล้ว ภายใน 3 วัน ซึ่ง ธ.ก.ส. จะใช้แหล่งเงินทุนของธนาคารสำรองจ่ายงบประมาณทั้งหมดไปก่อน และเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระคืนต่อไป โดยรัฐบาลจะชดเชยภาระทางการคลังตามมาตรา 20(5) แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

สำหรับการจัดทำมาตรการดังกล่าวได้รับการออกแบบภายใต้พันธกรณีด้านสิ่งแวดล้อมของ WTO มุ่งหวังให้เกษตรกรยกระดับผลผลิตของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมาตรการนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย ซึ่งภาครัฐยังคงเดินหน้าผลักดันให้เกษตรกรลดการเผาอ้อยอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้การตัดอ้อยสด 100% อย่างยั่งยืนต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555