ทีม “Agro-Power” ม.แม่โจ้ คว้ารองอันดับ 2 ระดับประเทศ Rakkaew – Enactus Thailand National Exposition 2025


.
ทีม Agro-Power มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำเสนอผลงาน “พลังเกษตร เปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นทุนชีวิต” คว้ารองอันดับ 2 ระดับประเทศ รางวัลโครงการ Platinum จากเวที Rakkaew – Enactus Thailand National Exposition 2025 จัดโดย มูลนิธิรากแก้ว เพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศได้แสดงผลของโครงการที่ได้ร่วมดำเนินงานกับชุมชน นำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนกับชุมชนมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีทีมจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ 21 ทีม ระหว่างวันที่ 6-7 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานคร

ผลงาน “พลังเกษตร เปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นทุนชีวิต” ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 และยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมุ่งแก้ปัญหาขยะเศษอาหารในชุมชนผ่านนวัตกรรมการเลี้ยงหนอนแมลงวันลาย (Black Soldier Fly: BSF) เพื่อเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นทรัพยากรมีคุณค่า เช่น อาหารสัตว์และปุ๋ยอินทรีย์ ตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมความโดดเด่นของผลงานไม่เพียงแต่อยู่ที่แนวคิดสร้างสรรค์ แต่ยังรวมถึงการลงมือปฏิบัติจริงและการขยายผลสู่ชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัยอย่างเป็นรูปธรรม ปัจจุบันโครงการได้ขยายสู่โรงเรียนบ้านป่าเหมือด ตลาด และศูนย์การเรียนรู้ในชุมชนใกล้เคียง ทำให้นักเรียน เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงองค์ความรู้เรื่องการจัดการขยะอย่างยั่งยืน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ Agro-Power คือพลังของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่เพียงเปลี่ยนขยะให้มีค่า… แต่ยังเปลี่ยนแนวคิดของสังคมให้ยั่งยืนไปพร้อมกัน

ทีม Agro-Power เป็นการรวมตัวของนักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร คณะบริหารธุรกิจ และวิทยาลัยบริหารศาสตร์ มีสมาชิก 5 คน ได้แก่
นายณัฐวัตร เเซ่เซียว , น.ส.พรรดี พนมวัน ณ อยุธยา , น.ส.ชนิภา ประยงค์รักษ์ , น.ส.มาลิณี ศรีแก้ว และ น.ส.กัณภัค โพธิสัตย์
โดยมี อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์ , อาจารย์ ดร.พิชญ์ จิตต์ภักดี , อาจารย์ ดร.สุธาวัลย์ สัจจสมบูรณ์ และ นายพิชิตพงษ์ ไชยโยชน์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

นายณัฐวัตร แซ่เซียว นักศึกษาคณะผลิตกรรมการเกษตร ผู้นำทีม Agro-Power กล่าวว่า “ผมอยากให้ Agro-Power ไม่ใช่แค่โครงการของนักศึกษา แต่มันต้องเป็นโมเดลที่ชุมชนใช้ได้จริง เราเริ่มจากในมหาวิทยาลัย ตอนนี้ขยายไปที่โรงเรียนและตลาด และหวังว่าจะได้เห็นเด็ก ๆ หรือคนในชุมชนลุกขึ้นมาทำเองได้ และขยายผลต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ คือความสำเร็จของจริง อยากบอกว่า การเปลี่ยนแปลงมันเริ่มได้จากเรื่องเล็ก ๆ แค่เรามองปัญหาไม่ใช่เพื่อบ่น แต่เพื่อแก้ และกล้าลงมือทำ ถ้าตั้งใจจริง ทุกคนก็สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้”

ด้าน อาจารย์ ดร.วงค์พันธ์ พรหมวงศ์ อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของนักศึกษาในการพัฒนาสังคม กิจกรรมนี้จึงไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงผลงานและศักยภาพของเยาวชนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในสังคมไทยในอนาคต นอกจากนี้ โครงการยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs อีกด้วย”