กรมส่งเสริมสหกรณ์ ชู ยกสหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี เป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจครบวงจรละเป็นสหกรณ์โดยแท้จริง คำนึงถึงสมาชิกเป็นหลัก มีการจัดชั้นสมาชิก เพื่อจัดสวัสดิการต่าง ๆ รวมทั้งการส่งเสริมสมาชิกให้ทำผลผลิตที่ได้มาตรฐาน GAP เพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นายสันทาน สีสา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ ชนะชู ผู้ตรวจราชการกรม เขตตรวจราชการส่วนกลาง และ 5 นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี นายเฉลิม นวมนิ่ม สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช นางเกษร นวลมังสอ ประธานกรรมการ นางยุพดี จิตผ่องอำไพ ผู้จัดการสหกรณ์ คณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ให้การต้อนรับ
นายสันทาน กล่าวว่าสหกรณ์แห่งนี้เป็นสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็ง และเป็นสหกรณ์โดยแท้จริง คำนึงถึงสมาชิกเป็นหลัก ซึ่งมีจุดเด่น คือ มีข้อมูลสมาชิกครบทุกราย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้ทราบถึงสภาพของตัวสมาชิก มีการจัดชั้นสมาชิก เพื่อจัดสวัสดิการต่าง ๆ รวมทั้งการส่งเสริมสมาชิกให้ทำผลผลิตที่ได้มาตรฐาน GAP เพื่อการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศในอนาคตจะสามารถทำได้ง่ายขึ้น
โดยสหกรณ์เป็นผู้รวบรวม ซึ่งกรมฯ มีเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ อัตราดอกเบี้ยต่ำ สนับสนุนให้สหกรณ์กู้นำมาใช้รวบรวมผลผลิตผลไม้ และสนับสนุนตะกร้าบรรจุผลไม้เพื่ออำนวยความสะดวกให้สหกรณ์ในการกระจายผลไม้ จุดเด่นอีกหนึ่งเรื่อง คือ เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงสินค้าระหว่างสหหรณ์ด้วยกันซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ตลอดจนการดำเนินงานซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ที่ได้นำผลผลิตจากสมาชิก และสินค้าของเครือข่ายสหกรณ์มาจำหน่าย เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
จึงอยากฝากเรื่องการรักษาฐานลูกค้าและรักษาตลาดของสหกรณ์ โดยให้กระจายสินค้าแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันให้เป็นปกติ ไม่จำเป็นต้องรอในช่วงราคาตกต่ำ และต้องชอชื่นชมสหกรณ์แห่งนี้ ขอให้รักษาคุณภาพการดำเนินงาน และกรมฯ จะใช้เป็นต้นแบบในการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร การพัฒนาผลผลิตของสมาชิก ดูแลสมาชิกตั้งแต่ต้นน้ำ ตลอดจนการใช้สมาชิกเป็นฐานการบริหารจัดการสหกรณ์ด้วย
“สหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด ถือเป็นสหกรณ์ต้นแบบที่สมาชิกมีส่วนร่วมดำเนินธุรกิจ ร้อยละ 100 รวมทั้งสามารถดำเนินงานเพื่อบริการสมาชิก ทั้งยังเป็นศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์กับสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จังหวัดร้อยเอ็ด นำงข้าวสารจากสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จำนวน 30 ตัน เพื่อมาจำหน่ายให้กับสมาชิก และกระจายสินค้าไปยังสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรต่าง ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะที่สหกรณ์การเกษตรพรหมคีรี จำกัด ก็จะส่งสินค้า เช่น ส้มโอสินค้า GI ของอำเภอปากพนัง มังคุด สะตอ มะพร้าว ที่มีอยู่ในจังหวัดออกไปจำหน่ายยังสหกรณ์ และเครือข่ายต่าง ๆ ในจังหวัดร้อยเอ็ดด้วย” นายสันทาน กล่าว