กรมส่งเสริมการเกษตรจับมือพาณิชย์ ขยายเวลาโครงการ “พาณิชย์สั่งลุย ลดราคาปุ๋ย” ระยะที่สองถึงเดือนมีนาคม 2567 เผยมีปุ๋ยเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 154,420 ตัน หรือประมาณ 3.1 ล้านกระสอบ ช่วยปรับลดราคาลงกระสอบละ 10-50 บาท
นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้หารือแนวทางการดำเนินโครงการ “พาณิชย์สั่งลุย ลดราคาปุ๋ย” ร่วมกับกรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย เพื่อให้เกษตรกรสามารถซื้อแม่ปุ๋ยได้ในราคาถูกและช่วยลดต้นทุนในการผลิตลงได้ ด้วยการเชื่อมโยงปุ๋ยจากโรงงานผู้ผลิต ผู้นำเข้า 26 ราย ผ่านความร่วมมือจากสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย มาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร
รพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์
ระยะที่ 1 ได้ดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ปริมาณ 151,920 ตัน หรือประมาณ 3 ล้านกระสอบ จำนวน 64 สูตร และได้ขยายเวลาดำเนินการต่อในระยะที่ 2 ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ซึ่งสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทยได้สนับสนุนปุ๋ยเพิ่มเติมอีก 2,500 ตัน หรือประมาณ 50,000 กระสอบ มีปุ๋ยเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 154,420 ตัน หรือประมาณ 3.1 ล้านกระสอบ ช่วยปรับลดราคาลงกระสอบละ 10-50 บาท หรือลดราคาร้อยละ 1 – 8
ในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตรได้แจ้งประชาสัมพันธ์ไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอให้รวบรวมความต้องการสั่งซื้อปุ๋ยของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นชนิดปุ๋ย สูตรปุ๋ย ปริมาณปุ๋ย ยี่ห้อปุ๋ย รวมถึงรายชื่อผู้ผลิต เพื่อแจ้งข้อมูลกลับมายังกรมส่งเสริมการเกษตร และส่งข้อมูลต่อไปยังกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ให้ประสานสมาคมการค้าปุ๋ยแจ้งไปยังสมาชิกผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ย พิจารณาจัดสรรตามความต้องการของเกษตรกรต่อไป
สำหรับแนวทางในการดำเนินการจำหน่ายปุ๋ยนั้นจะมีการสนับสนุนให้เกษตรกรสั่งซื้อผ่านสถาบันเกษตรกรที่ตนเป็นสมาชิก เช่น ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มแปลงใหญ่ โดยสถาบันเกษตรกรจะเป็นผู้รวบรวมยอดการสั่งซื้อ และแจ้งไปยังสำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดในแต่ละพื้นที่ จากนั้นสำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดจะประสานงานมายังกรมส่งเสริมการเกษตรให้รวบรวมข้อมูลประสานไปยังกรมการค้าภายในและสมาคมปุ๋ยที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะจัดจำหน่ายปุ๋ยให้ตามที่สั่งซื้อต่อไป
ส่วนด้านการขนส่ง สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทยได้เข้ามาช่วยเหลือด้านการขนส่ง โดยสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทยพร้อมที่จะอำนวยความสะดวก และจัดส่งปุ๋ยไปยังสถาบันเกษตรกรในราคาพิเศษ กรณีที่ไม่สามารถจัดหารถบรรทุกไปรับปุ๋ยจากที่หน้าโรงงานได้เอง
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรเชื่อมั่นว่าการขยายเวลาการดำเนินโครงการ “พาณิชย์สั่งลุย ลดราคาปุ๋ย” จะส่งผลให้เกษตรกรได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มมากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงและซื้อปุ๋ยได้ในราคาถูก นำไปสู่การลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรต่อไป