ปีนี้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประมาณการณ์ว่า ไทยจะสามารถส่งออกข้าวไปยังตลาดโลกเป็นอันดับที่สองรองจากอินเดีย ซึ่งปีที่แล้วทั้งปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค.2565) ไทยสามารถส่งออกข้าวไปต่างประเทศได้ทั้งสิ้น 7.69 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 22.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ปี 2564 ไทยส่งออกข้าวได้ทั้งสิ้น 6.29 ล้านตัน) มีมูลค่าส่งออกทั้งสิ้น 3,970.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ปี 2564) โดยมีตลาดที่ไทยส่งออกข้าวไทย10 อันดับแรก เดือน มกราคม 2566 ไปยังสหรัฐอเมริกา: 26.48% จีน: 17.03% ญี่ปุ่น: 14.91% อินโดนีเซีย: 6.73% มาเลเซีย: 6.66% ออสเตรเลีย: 6.18% เวียดนาม: 6.10% สิงคโปร์: 5.87% อินเดีย: 5.82% ฟิลิปปินส์: 4.22%
จากประสบการณืที่ได้สัมผัสของ ดวงฤทัย นิพนธ์วัฒนกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สยามโกลเด้นไรซ์ จำกัด ผู้ประกอบการโรงสีข้าวที่ ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี บอกว่า จากการที่ได้ไปร่วมงาน Gulfood 2023 ครั้งที่ 28 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งได้นำข้าวหอมมะลิไทย จัดแสดงตัวอย่างร่วมกับข้าวไทยชนิดต่างๆ อาทิ ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวขาว และข้าวนึ่ง รวมทั้งข้าวคุณลักษณะพิเศษ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี ข้าวสังข์หยด และข้าว กข 43 เป็นต้น โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมการค้าต่าวประเทศ กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ข้าวไทยได้รับการตอบรับจากตลาดต่างประเทศเป็นอย่างดี แต่ติดปัญหาติดหนึ่งข้าวไทยราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับเวียดนามและอินเดีย ทำให้ความนิยข้าวไทยโดยเฉพาะในตะวันออกกลางความนิยมยังเป็นรองข้าวบาสมาติกของอินเดีย และข้าวจัสมินของเวีดนาม(รายละเอียดในคลิป)
จากข้อมูลสำหรับภูมิภาคตะวันออกกลาง เป็นตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญของไทย โดยมีสัดส่วน 26% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด โดยประเทศที่ไทยส่งออกข้าวไปมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ อิรัก เยเมน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิสราเอล ตุรกี และโอมาน โดยในปี 2565 ไทยส่งออกข้าวไปภูมิภาคตะวันออกกลางปริมาณ 2.02 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ส่งออกปริมาณ 0.63 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 220% ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกข้าวขาว รองลงมาข้าวหอมมะลิไทย